หลายคนอาจจะเห็นเราเขียนแต่บทความเกี่ยวกับโตเกียวมาหลายที คงอยากจะรู้เรื่องมหาวิทยาลัยอื่นกันบ้างใช่ไหมคะ วันนี้เราเลยจัดให้ค่ะ จะพาไปแนะนำเมืองอื่น ๆ ญี่ปุ่นที่น่าอยู่และน่าเรียนไม่แพ้กับโตเกียวเผื่อน้อง ๆ จะได้นำไปประกอบการตัดสินใจกัน รวมถึงเราจะแนะนำมหาวิทยาลัยชื่อดังในเมืองนั้น ๆ พร้อมบอกอันดับแรงค์กิ้งให้ด้วย

สำหรับข้อมูลแรงค์กิ้งที่เราจะนำมาเป็นตัวชี้วัดในวันนี้จะได้มาจาก 2 ทางค่ะ

  • Toshin Hensachi : อันแรกเป็นอันดับที่เด็กญี่ปุ่นก็ใช้เลือกมหาวิทยาลัยกันเหมือนกัน มาจากการจัดอันดับของโรงเรียนติวเตอร์ชื่อดังของญี่ปุ่นที่เป็นการจัดอันดับความยากง่ายในการสอบเข้า เช่น SS คือยากมากที่สุด S ยากมาก A ค่อนข้างยาก B มาตรฐาน
  • Times Higher Education : เว็ปไซต์ด้านการศึกษาชื่อดังจากอังกฤษ ที่จัดอันดับมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นประจำปี 2021 โดยอิงจาก 4 ด้านคือ ทรัพยากรณ์ทางการศึกษา(Resource) ความเข้มข้นทางการศึกษา(Engagement) ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา (Outcomes) และ สภาพแวดล้อมทางการศึกษา (Environment)
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย hide

Hokkaido

จังหวัดแรกที่เราอยากจะนำเสนอและ “ท้า” ให้ลองไปใช้ชีวิตกันดู นั่นก็คือ จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) เหนือสุดถิ่นญี่ปุ่น “เป็นเกาะใหญ่อันดับที่สองรองจากเกาะฮนชู” แต่ละปีมีหิมะตกเฉลี่ยมากถึง 600 เซนติเมตร รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทุ่งหญ้า ป่าเขา ทะเล อุดมไปด้วยอาหารทะเลและนมเนยแสนอร่อย สาธยายมาขนาดนี้แล้ว เชื่อว่าต้องมีใครอยากไปลองอยู่ที่นี่กันไม่มากก็น้อย

Hokkaido 4 เมืองน่าเรียนต่อในประเทศญี่ปุ่น
Hokkaido ถือว่าเป็น 1 ใน 4 ของเมืองน่าเรียนต่อในประเทศญี่ปุ่นที่อยากให้ลองดูสักครั้ง

รุ่นน้องเราคนนึงที่เคยที่เคยไปเรียนแลกเปลี่ยนที่จังหวัดฮอกไกโดเล่าให้ฟังว่า ตอนหน้าหนาวนี่ก็หนาวมากจริง ๆ นะ หิมะตกหนักจะออกไปไหนก็ไม่ได้ แต่ในเวลาปกติ ฮอกไกโดถือว่ามีอากาศดีตลอดทั้งปี ช่วงปิดเทอมหน้าร้อนก็ยังเย็นสบาย ไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ได้แบบเพลิดเพลิน ผิดกับที่โตเกียวที่แดดแรงแผดเผามาก ๆ แต่นอกจากเรื่องสภาพแวดล้อมที่ดีแล้ว ฮอกไกโดยังมีมหาวิทยาลัยชั้นนำอยู่ด้วยค่ะ

Hokkaido University

มหาวิทยาลัยฮอกไกโดเป็นมหาวิทยาลัยรัฐบาล ที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังเป็นมหาวิทยาลัยที่มีคณะมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ทั้งสายวิทย์ สายสังคม หรือสายศิลป์ สำหรับการจัดอันดับนั้น มหาวิทยาลัยฮอกไกโดอยู่ในระดับ S คือสอบเข้าได้ยากมาก และยังอยู่ในอันดับที่ 6 ของ Times Higher Education

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย : www.global.hokudai.ac.jp

แคมปัสของมหาวิทยาลัยฮอกไกโดจะแบ่งเป็น 2 แห่งคือที่ ฮาโกดาเตะ (Hakodate) กับที่ซัปโปโร (Supporo) สำหรับแคมปัสซัปโปโรนั้นจะมีขนาดใหญ่ที่สุด คณะส่วนใหญ่จะอยู่ตรงนี้ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่ก็ยังห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ ฟาร์ม ทุ่งนา ป่าเขา “และที่สำคัญยังขึ้นชื่อว่าเป็นแคมปัสที่สวยที่สุดในบรรดามหาวิทยาลัยญี่ปุ่นด้วยนะ” ส่วนแคมปัสฮาโกดาเตะมีความพิเศษคือตั้งติดกับทะเล และยังเป็นศูนย์วิจัยทางประมง มีเรือสำหรับการเรียนรู้ให้นักศึกษาถึงสองลำด้วยกัน

สำหรับใครที่อยากท้าลมหนาว สัมผัสอากาศใกล้ชิดธรรมชาติ แนะนำให้มาที่มหาวิทยาลัยฮอกไกโดเลยค่ะ ที่นี่เปิดรับนักศึกษาผ่านทุนรัฐบาลญี่ปุ่นทุกปีเลย

แนะนำอ่านต่อ : ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น Monbukagakusho (MEXT)


Kanazawa

หากใครอยากอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ห้อมล้อมด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์พร้อมกลิ่นอายของญี่ปุ่นยุคเก่า เราขอแนะนำให้น้อง ๆ ลองมาที่เมืองคานาซาวะ (Kanazawa City) จังหวัดอิชิกาวะ (Ishikawa Prefecture) หากใครยังสงสัยว่าเมืองนี้ตั้งอยู่ที่ไหน เราก็จะอธิบายให้ฟังง่ายๆ ว่า อยู่ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลก “หมู่บ้านชิราคาวาโกะ” เพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น

Kanazawa - 4 เมืองน่าเรียนต่อในประเทศญี่ปุ่น
Kanazawa อีก 1 ใน 4 เมืองน่าเรียนต่อในประเทศญี่ปุ่น ไม่ไกลจากหมู่บ้านมรดกโลกอย่างชิราคาวาโกะ

เมืองคานาซาวะจะมีหิมะตกในฤดูหนาว อากาศเย็นสบายไม่ร้อนมากในหน้าร้อน แหละที่สำคัญ ธรรมชาติก็ยังอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณมหาวิทยาลัยที่เราจะยกมาแนะนำในวันนี้ บอกเลยว่าอากาศดีชุ่มปอด

Kanazawa University

มหาวิทยาลัยคานาซาวะมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1862 นับจนถึงตอนนี้ก็ปาเข้าไป 159 ปีแล้ว ปัจจุบันมหาวิทยาลัยคานาซาวะมีคณะในระดับปริญญาตรีอยู่ทั้งหมด 8 คณะ และระดับบัณฑิตวิทยาลัยอีก 8 คณะ “นับเป็นมหาวิทยาลัยหลักของภูมิภาคโฮกูริกุ” เรื่องการศึกษานี่ไม่ต้องพูดถึง เพราะที่นี่อุดมไปด้วยนักวิจัยชั้นยอด และยังมีระบบการเรียนที่เอื้อต่อนักศึกษาต่างชาติมากๆ อีกด้วย ในการจัดอันดับ มหาวิทยาลัยคานาซาวะอยู่ในแรงค์ A ของญี่ปุ่น คือข้อสอบเข้าค่อนข้างยาก และอยู่ในอันดับที่ 18 ของ Times Higher Education

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย : www.kanazawa-u.ac.jp

ส่วนเรื่องสภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัยก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะแคมปัสที่ใหญ่ที่สุดของมหาวิทยาลัยคานาซาวะอย่าง “แคมปัสคากูมะ (Kakuma Campus)” นั้นตั้งอยู่บนเขาคากูมะ เบื้องหลังเป็นป่าเขา เพื่อนที่ไปแลกเปลี่ยนของเราเคยบอกว่าวันดีคืนดีอาจจะเจอหมีโผล่มาทักทายก็ได้


Kyoto

ที่ที่จะไม่พูดถึงไปไม่ได้เลยคือ จังหวัดเกียวโต มีหลายคนเลยค่ะที่ไปเกียวโตแล้วชอบจนอยากจะมาอยู่ นั่น “เป็นเพราะที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงเก่า จึงถือเป็นแหล่งรวมมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น” มีสถานที่ท่องเที่ยวทางมรดกโลกมากมาย รวม ๆ แล้วเกียวโตมีสถานที่ทางประวัติศาตร์ ไม่ว่าจะเป็นวัด ศาลเจ้า หรือสวนแบบญี่ปุ่นมากกว่า 2,000 แห่งเลยทีเดียว ท่ามกลางสังคมเมืองที่เจริญเติบโตขึ้น เกียวโตก็ยังอนุรักษ์สิ่งเก่าแก่เอาไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์

Kyoto - 4 เมืองน่าเรียนต่อในประเทศญี่ปุ่น
Kyoto แหล่งรวมมรดกโลก – เมืองน่าเรียนต่อในประเทศญี่ปุ่น

แน่นอนว่าหากน้อง ๆ ได้มีโอกาสมาเรียนที่นี่ นอกจากจะได้เที่ยวชมความเก่าแก่ที่ซ่อนอยู่ในทุกซอกทุกมุมของเกียวโตแล้ว ยังถือเป็นจังหวัดใหญ่ที่มีความปลอดภัยและเหมาะสมต่อการมาเรียนต่อด้วย เพราะเกียวโตมีนักศึกษาชาวต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่า 1 ใน 10 ของประชากรทั้งจังหวัด น้อง ๆ จึงไม่ต้องห่วงว่าจะเหงาเลยค่ะ

Kyoto University

มหาวิทยาลัยชื่อดังและดีที่สุดในจังหวัดเกียวโตก็ต้องยกให้ มหาวิทยาลัยเกียวโต (Kyoto University) สิคะ ในการจัดอันดับ “มหาวิทยาลัยแห่งนี้ถูกจัดอยู่ในแรงค์ SS คือสอบเข้ายากมาก ๆ” พอ ๆ กับมหาวิทยาลัยโตเกียวเลย และยังอยู่ในอันดับที่ 4 ของแบบสำรวจ Times Higher Education แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว หากเบอร์หนึ่งเป็นมหาวิทยาลัยโตเกียว เบอร์สองก็ต้องยกให้มหาวิทยาลัยเกียวโตเท่านั้น

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย : www.kyoto-u.ac.jp

หากมหาวิทยาลัยโตเกียวเป็นศูนย์รวมหัวกะทิแห่งภูมิภาคคันโต มหาวิทยาลัยเกียวโตก็คือแหล่งรวมหัวกะทิในภูมิภาคคันไซ เรียกได้ว่าเรื่องความเก่งนี่ไม่มีใครยอมใคร แต่เขาว่ากันว่าความแตกต่างคือ “ความฮา” ค่ะ หากใครเคยเห็นตามหน้าข่าวในช่วงเดือนมีนาคมจะเห็นว่าบัณฑิตของม.เกียวโตจะแต่งตัวประหลาด ๆ มาประชันกันเหมือนรอวันปล่อยผีแบบนี้มานาน ดังนั้นหากใครอยากเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำ แต่ไม่ชอบความเครียดเกินไปเหมือนโตไดละก็ มาเรียนที่ ม.เกียวโตสิคะ


Fukuoka

พาขึ้นเหนือไปเกาะฮอกไกโดก็แล้ว พาขึ้นเขา ลงเกียวโตก็แล้ว คราวนี้เราขอแนะนำให้น้อง ๆ ลองลงใต้มาที่จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka) แห่งเกาะคิวชูกันบ้าง แต่ก่อนจะไปพูดถึงตัวจังหวัด เราขอแนะนำเกาะคิวชูกันสักนิด “เกาะคิวชู” เป็นหนึ่งในสี่เกาะหลักของญี่ปุ่นที่ถ้าบอกชื่อจังหวัดในนี้ออกไป เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนคงร้องอ๋อ นั่นก็คือ นางาซากิ ซางะ คุมาโมโตะ มิยาซากิ คาโงชิมะ และฟุกุโอกะ จะเห็นได้ว่ามีแต่จังหวัดท่องเที่ยวทั้งนั้น ดังนั้นหากน้อง ๆ มีโอกาสได้มาที่นี่ รับรองได้เที่ยวคลายเครียดไม่มีเบื่อ

Fukuoka - 4 เมืองน่าเรียนต่อในประเทศญี่ปุ่น
Fukuoka – 1 ใน 4 เมืองน่าเรียนต่อในประเทศญี่ปุ่น และยังมีค่าครองชีพที่ถูกมาก

สำหรับจังหวัดฟุกุโอกะ นับเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในคิวชู และยังมีความสัมพันธ์เป็นเมืองพี่เมื่องน้องกันกับกรุงเทพมหานครด้วย สภาพอากาศในช่วงหน้าร้อนจะค่อนข้างร้อนเนื่องจากเกาะคิวชูตั้งอยู่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ส่วนหน้าหนาวจะไม่ค่อยหนาวมากนัก

นอกจากนั้น จังหวัดนี้ยังเป็นที่นิยมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ “เพราะมีค่าครองชีพที่ถูกเป็นอันดับ 4 ของญี่ปุ่น” และนับว่าเป็นเมืองที่คนญี่ปุ่นยกนิ้วให้ว่า “อยู่ง่าย” เนื่องจากว่า แม้ฟุกุโอกะจะเป็นเมืองใหญ่ แต่ก็ยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และยังคงความเป็นเมืองในชนบทเอาไว้ได้แบบพอดี ๆ ดังนั้นใครที่อยากอยู่ในจังหวัดที่ไม่เจริญมากเกินไป และไม่ลำบากมากเกินไป แนะนำฟุกุโอกะเลยค่ะ

Kyushu University

มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในเกาะคิวชู และตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุโอกะ คงหนีไม่พ้นมหาวิทยาลัยคิวชู (Kyushu University) ซึ่งถูกจัดให้อยู่ในแรงค์ S คือจะสอบเข้าได้ไม่ใช่เรื่องง่าย และอยู่ในอันดับที่ 8 ของ Times Higher Education

“มหาวิทยาลัยคิวชูก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก ในฐานะโรงเรียนด้านการแพทย์ของจังหวัดฟุกุโอกะ” เมื่อปีค.ศ. 1879 และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นมหาวิทยาลัยคิวชู เมื่อปีค.ศ. 1903 ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยคิวชูนับว่าเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น มีงานวิจัยที่โด่งดังและเป็นที่ยอมรับมากมายในระดับโลก มีคณะครอบคลุมทั้งด้านสายศิลป์ สังคม และวิทยาศาสตร์ รวมถึงยังเปิดรับนักศึกษาต่างชาติจำนวนมากเป็นประจำทุกปี

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย : www.eng.kyushu-u.ac.jp

มหาวิทยาลัยคิวชูประกอบไปด้วย 6 แคมปัส แต่ที่ใหญ่ที่สุดคือที่ “อิโตะ แคมปัส (Ito Campus)” ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดฟุกุโอกะ ใจกลางคาบสมุทรอิโตชิมะซึ่งล้อมรอบไปด้วยภูเขา ป่าไม้ และทะเลที่สวยงาม ทางมหาวิทยาลัยเพิ่งสร้างอิโตะแคมปัสเสร็จเมื่อไม่นานนี้เองค่ะ ดังนั้นเรียกได้ว่าแคมปัสนี้ทันสมัยสุด ๆ มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการศึกษามาก ๆ


เป็นอย่างไรกันบ้างคะ!? มีภูมิภาคไหน หรือ เมืองไหน น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับน้องบ้างมั้ย!? ถ้าชอบบทความแบบนี้เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคะ และก็ขออวยพรให้น้อง ๆ ที่กำลังมองหามหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น ได้ผลตอบรับกันทุก ๆ คนเลยน้า ส่วนใครที่กำลังตัดสินใจ อาจจะมีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นก่อน อย่าลืมซื้อ ประกันเดินทางต่างประเทศ เพราะค่ารักษาพยาบาลที่ญี่ปุ่นแพงใช่เลนเลยค่ะ.

แนะนำอ่านต่อ : “เซ็มมง” วิทยาลัยอาชีวศึกษาที่รับคนต่างชาติเข้าเรียน มีสาขาไหนน่าสนใจบ้าง!?