ปัจจุบันการทำ Home School หรือที่ในประเทศไทยรู้จักกันในชื่อ “บ้านเรียน” กำลังได้รับความสนใจในหมู่ผู้ปกครองมากขึ้นหลายเท่าตัว อาจเป็นเพราะสถานการณ์โควิด ที่ทำให้โรงเรียนต้องปิด ต้องมีการสอนออนไลน์ จึงทำให้ผู้ปกครองต้องลงมือสอนลูก ๆ เองทำให้บางคนเริ่มมองหาตัวเลือกอื่น ๆ นอกจากการส่งลูกไปโรงเรียนแบบในอดีต แต่อาจจะยังมีหลาย ๆ หัวข้อ หรือคำถามที่เหล่าผู้ปกครองยังคงสงสัย ทาง Owl Campus ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการโฮมสคูล และคำตอบที่น่าจะคลายความสงสัยของพ่อแม่ได้มารวมอยู่ในบทความนี้ ตามมาดูกันเลย!

Home School คืออะไร?

Home School (โฮมสคูล) นั้นถูกจัดว่าเป็นประเภทหนึ่งของการจัดการศึกษาให้เด็กในวัยเรียน

ตามมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ซึ่งครอบครัว พ่อแม่หรือผู้ดูแล สามารถจัดการการศึกษาพื้นฐานให้แก่เด็กเอง โดยที่ไม่ต้องเข้าเรียนในโรงเรียนของรัฐ หรือเอกชน

ซึ่งในการเรียนแบบโฮมสคูลนั้น บ้านเปรียบเสมือนโรงเรียน โดยมีพ่อแม่หรือผู้ปกครองเป็นครู ผู้ที่จะต้องเลือกรูปแบบการจัดการศึกษา และจัดทำแผนการศึกษาโดยอิงจากความสนใจของลูก ซึ่งก็คือนักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ นอกจากนี้พ่อแม่ยังต้องประเมินและเก็บรวบรวมผลงานการเรียนรู้ของลูก เพื่อส่งให้กับทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอีกด้วย

Home School ทำได้ตั้งแต่อายุเท่าไร?

ถึงแม้ว่าการศึกษาภาคบังคับในประเทศไทย จะเริ่มต้นที่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หรืออายุประมาณ 7 ปี แต่หากคุณพ่อคุณแม่อยากจะเริ่ม Home School ให้ลูก ๆ ตั้งแต่ชั้นอนุบาลก็สามารถทำได้เช่นกัน และนอกจากนี้ยังสามารถทำโฮมสคูลได้จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้เลยอีกด้วย

Home School ไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียว!

เมื่อคนพูดถึงโฮมสคูล หรือ บ้านเรียน ก็มักจะเข้าใจว่าการศึกษาประเภทนี้จะมีได้ในรูปแบบเดียวคือ พ่อแม่สอนลูกเองที่บ้าน แต่ในความเป็นจริงแล้วการโฮมสคูล นั้นสามารถทำได้ในหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่บริบทของแต่ละครอบครัว อาทิเช่น

  • การจัดการศึกษาแบบครอบครัวเดี่ยว ซึ่งพ่อแม่จะเป็นผู้ประเมินผลการเรียนของลูก ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
  • การจัดการศึกษาแบบกลุ่ม ซึ่งจะเป็นการรวมกลุ่มของครอบครัวที่จัดการศึกษาแบบโฮมสคูล โดยจะมีการจัดการศึกษาแยกจากกันอย่างอิสระของแต่ละบ้าน และมีการนัดรวมกลุ่มกันเพื่อทำกิจกรรมร่วมกันในบางโอกาส
  • การจัดการศึกษาแบบรวมศูนย์ คือการรวมตัวกันของครอบครัวโฮมสคูล จัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนครอบครัวเดี่ยว หรือศูนย์การเรียนกลุ่มครอบครัว โดยที่มีคณะครอบครัวทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการดูแลบริหารจัดการ “ในรูปแบบไม่แสวงหาผลกำไร” 
  • การจัดการศึกษาโดยมีข้อตกลงร่วมกับทางโรงเรียน โดยที่การจัดหลักสูตรการสอน จะเป็นหน้าที่ของผู้ปกครอง ในส่วนของการประเมินผลนั้น ผู้ปกครองจะร่วมประเมินกับทางโรงเรียน ทางโรงเรียนจะมีการออกใบรับรอง สนับสนุนสื่อการเรียน การใช้สถานที่ในการทำกิจกรรม หรือให้เด็กโฮมสคูลเข้าร่วมกิจกรรมกับนักเรียนในโรงเรียนในบางกิจกรรม เช่น ทัศนศึกษา เป็นต้น
  • การเรียนออนไลน์ โดยใช้หลักสูตรโฮมสคูลของต่างประเทศ

ใครสามารถทำโฮมสคูลให้ลูกได้บ้าง?

ทุกครอบครัวสามารถทำโฮมสคูลให้ลูกได้ แต่ก็มีสิ่งที่ควรจะพิจารณาและวางแผนอยู่หลาย ๆ ข้อ เช่นใครจะเป็นผู้ดูแลและสอนลูก? แบ่งหน้าที่การสอนลูกอย่างไร? มีเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับทำโฮมสคูลหรือไม่?

การจัดเก็บแฟ้มผลงานของลูกในระหว่างการเรียน Home School - สคูลลั้น - Home School คืออะไร
การจัดเก็บแฟ้มผลงานของลูกในระหว่างการเรียน Home School เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้พ่อแม่ยังต้องออกแบบ และจัดทำแผนการจัดการศึกษา โดยอิงจากความสนใจของลูกและบริบทของครอบครัวเป็นหลัก แต่ก็ยังต้องสอดแทรกองค์ความรู้พื้นฐานของแต่ละช่วงวัยเข้าไปด้วย และทำการบันทึกผลลัพท์ รวมไปถึง “การจัดเก็บแฟ้มผลงานของลูกในระหว่างการเรียน” ในแต่ละเทอม เพื่อส่งมอบให้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทำการประเมินในแต่ละครั้ง

การออกแบบแผนการจัดการศึกษา

การออกแบบแผนการจัดการศึกษาแบบโฮมสคูลนั้น จะต้องมีการสร้างหลักสูตรของครอบครัวโดยตกลงและเตรียมการร่วมกันระหว่างพ่อแม่และลูก อาจจะมีการผสมผสานกันขององค์ความรู้ กระบวนการเรียนรู้ ที่จะช่วยหล่อหลอมให้เด็กเป็นคนใฝ่เรียนรู้ และเข้าใจกระบวนการ และวิธีการค้นคว้าหาความรู้ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่จะช่วยให้เด็กสามารถเสริมสร้างความรู้ไปได้ตลอดชีวิต

แผนการศึกษาแบบโฮมสคูลนั้นจะมีส่วนประกอบดังต่อไปนี้

  • องค์ความรู้ ขอบเขตเนื้อหาทางวิชาการ ไม่แตกต่างจากหลักสูตรในโรงเรียนทั่วไป
  • กระบวนการ วิธีการเรียนรู้ จะยืดยุ่นแตกต่างกันไปในแต่ละครอบครัว 
  • มีการสร้างเสริมประสบการณ์จากกิจกรรมนอกห้องเรียน
  • มีการเข้าร่วมกลุ่ม Home School หรือค่ายกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ลูกได้พัฒนาสกิลเข้าสังคม

โฮมสคูลเรียนอะไรบ้าง?

การเรียนแบบโฮมสคูลมักจะยึดตามความสนใจของเด็กและครอบครัวเป็นหลัก โดยที่กระบวนการเรียนและวิธีการเรียนอาจแตกต่างกับการเรียนในโรงเรียนทั่วไป เช่นการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่องการชั่ง ตวง และวัด ของเด็กโฮมสคูลอาจใช้การเรียนผ่านการทำขนมเค้ก และยังสามารถต่อยอดไปในเรื่องการคำนวณต้นทุน ราคาขาย และการทำบัญชีได้ด้วย

การประเมินผล

การประเมินผลของการทำโฮมสคูลแตกต่างกันไปในแต่ละรูปแบบของการจัดการเรียน เช่นหากเป็นการจัดโฮมสคูลแบบครอบครัวเดี่ยว หน้าที่การประเมินก็จะเป็นของพ่อแม่ และ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ได้จดทะเบียนไว้ โดยที่วิธีการประเมินก็อาจแตกต่างกันไปในแต่ละเขต เช่นการดูแฟ้มผลงาน, การทำแบบประเมิน และ การสัมภาษณ์สอบถามเด็ก เป็นต้น โดยที่จะมีการประเมินจากเขตอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

การสนับสนุนจากรัฐ

สำหรับนักเรียนโฮมสคูลที่ได้ลงทะเบียนกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพฐ. หรือ สพป.) แล้ว จะได้รับ “เงินอุดหนุนการศึกษา” ซึ่งจัดสรรให้นักเรียนทุกคนตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา ไปจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน เหมือนกับนักเรียนทั่วไปที่เรียนในระบบโรงเรียนของรัฐ โดยเงินอุดหนุนการศึกษาจะแบ่งออกเป็น 5 หมวดดังต่อไปนี้

  • ค่าจัดการเรียนการสอน
  • ค่าหนังสือเรียน
  • ค่าอุปกรณ์การเรียน
  • ค่าเครื่องแบบนักเรียน
  • ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน

โดยที่นักเรียนในแต่ละระดับชั้นเรียนก็จะได้รับเงินอุดหนุนจำนวนไม่เท่ากัน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ

เรียนโฮมสคูลมีวุฒิการศึกษาไหมและสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หรือไม่?

ผู้ปกครองหลายคนอาจกังวลว่าหากเรียนโฮมสคูลแล้ว กลัวว่าลูก ๆ จะไม่สามารถเข้าเรียนในระบบได้อีก จริง ๆ แล้วการเรียนโฮมสคูลสามารถได้รับวุฒิการศึกษา เพื่อนำไปสอบเข้าโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยในระบบได้ ซึ่งก็มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น

  • การจดลงทะเบียนกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 
  • การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.)
  • จดทะเบียนกับโรงเรียนที่เปิดรับเด็กโฮมสคูล
  • ลงเรียน หรือ สอบเทียบหลักสูตรของต่างประเทศ เช่น GED หรือ IGCSE

ในกรณีที่ผู้ปกครองอยากให้ลูกกลับเข้าเรียนโรงเรียนในระบบ สามารถขอใบรับรองวุฒิการศึกษาจาก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ที่ได้ลงทะเบียนไว้ได้ หรือจะปรึกษาเรื่องวุฒิการศึกษากับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ก็สามารถทำได้เช่นกัน

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ผู้ปกครองน่าจะได้ไอเดียมากขึ้นว่า Home School คืออะไร? สามารถดำเนินการตามขั้นตอนได้อย่างมั่นใจขึ้น และในอนาคตทางทีมงานเราจะมีบทสัมภาษณ์เล็ก ๆ ของบ้านเรียนแห่งหนึ่งมาฝากด้วย รอติดตามกันได้เลย!

Owl Campus Team