การสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น ถูกจัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1984 โดยมีผู้สมัครประมาณ 7,000 คนทั่วโลก และในปี ค.ศ. 2019 เฉพาะการจัดสอบในเดือนธันวาคม มีผู้สมัครมากถึง 718,063 คนทั่วโลก โดยมีอัตราการสอบผ่านที่ระดับ 34%
การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น หรือ JLPT เป็นการสอบเพื่อวัดผลและรับรองความรู้ ความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นของชาวต่างชาติที่ศึกษาภาษาญี่ปุ่นทั้งภายในและนอกประเทศญี่ปุ่น จัดโดยสมาคมสนับสนุนการศึกษานานาชาติแห่งประเทศญี่ปุ่น (JEES) ในกรณีที่ทำการสอบนอกประเทศญี่ปุ่นจะถูกควบคุมโดยมูลนิธิญี่ปุ่น (The Japan Foundation)
ข้อดีของการมีผลสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น
ประโยชน์ของการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น JLPT นั้นนอกจากจะใช้เป็นเครดิตในการสมัครเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ประเทศญี่ปุ่น หรือใช้ยื่นประกอบการสมัครทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (ตามเกณฑ์ที่กำหนด) ยังสามารถใช้เป็นใบรับรองในการสมัครงานที่ต้องอาศัยความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น
- สิทธิพิเศษในการรับคะแนนเพิ่ม 10-15 คะแนน สำหรับการยื่นขอวีซ่าแรงงานทักษะสูง Highly-Skilled Foreign Professionals (HSP) โดยต้องสอบผ่านระดับ N1 หรือ N2
- เป็นหนึ่งใน Requirements การสอบใบประกอบวิชาชีพของแพทย์, ทันตแพทย์, จิตแพทย์, พยาบาล ฯลฯ โดยต้องสอบผ่านระดับ N1
- เป็นหนึ่งใน Requirements การสอบผู้ช่วยพยาบาลของญี่ปุ่น โดยต้องสอบผ่านระดับ N1 สิทธิพิเศษในการขอละเว้นการเข้าสอบวิชาภาษาญี่ปุ่นในการสอบจบการศึกษามัธยมต้นของผู้มีสัญชาติต่างประเทศ โดยต้องสอบผ่านระดับ N1 หรือ N2
- เป็นหนึ่งใน Requirements การคัดเลือกพยาบาลหรือผู้ดูแลในโครงการเขตร่วมมือทางเศรษฐกิจ EPA โดยผู้สมัครที่มาจากประเทศอินโดนีเซียหรือประเทศฟิลิปปินส์จะต้องสอบผ่านระดับ N5 ส่วนผู้สมัครจากประเทศเวียดนามจะต้องสอบผ่านระดับ N3
การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น JLPT มีกี่ระดับ
การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น JLPT ปัจจุบันนั้นแบ่งออกเป็น 5 ระดับ N5 – N1 โดยระดับ N5 จะเป็นระดับที่ง่ายที่สุด ผู้สมัครสอบสามารถเลือกสอบระดับไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับจาก N5 มาถึง N1 เพียงแค่ในการสอบแต่ละครั้งนั้น ผู้สมัครสอบสามารถสมัครได้เพียงระดับเดียว

JLPT ต้องสอบได้คะแนนเท่าไหร่ถึงจะผ่าน ?
เกณฑ์คะแนนในแต่ละระดับนั้นจะแตกต่างกัน ผู้เข้าสอบที่จะผ่านการวัดระดับได้นั้น จะต้องผ่านทั้งคะแนนขั้นต่ำของแต่ละพาร์ท และคะแนนรวมเท่านั้น ถ้าผ่านเเค่อย่างใดอย่างหนึ่งจะไม่ถือว่าผ่านการสอบ


ความแตกต่างของตารางสอบและตารางคะแนน! โดยที่พาร์ทของตารางสอบจะแตกต่างกับพาร์ทของผลคะแนน สามารถดูความสัมพันธ์ระหว่างตารางสอบและผลคะแนนได้จากตารางข้างล่างนี้

ขั้นตอนการสมัครสอบและค่าสมัครสอบ JLPT
การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น JLPT นั้นจะจัดสอบวันเดียวกันทั่วโลก ปีละ 2 ครั้งคือ ในวันอาทิตย์แรกของเดือนกรกฏาคม (เดือน 7) และวันอาทิตย์แรกของเดือนธันวาคม (เดือน 12) กำหนดการคร่าวๆในการเตรียมตัวสมัครสอบจะมีรายละเอียดดังนี้
ครั้งที่ 1
ครั้งที่ 2
วิธีการสมัครสอบที่ประเทศไทย
- สมัครออนไลน์ได้ที่ www.jlptonlinethailand.com
- สมัครทางไปรษณีย์ (รับ-ส่งใบสมัครทางไปรษณีย์ไทยเท่านั้น)
- สมัครด้วยตนเองที่สมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่นในพระบรมราชูปถัมน์ (สนญ)
ระดับ N5 – N4 600 บาท
ระดับ N3 – N1 800 บาท
ค่าสมัครสอบ
สถานที่จัดสอบ
สนามสอบของการสอบครั้งที่ 1 และ 2 นั้นจะแตกต่างกัน Owl Campus แนะนำให้ติดตามข่าวประกาศจาก สมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่น
การสอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่นครั้งที่ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2565
วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2565 ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพ
ใบรับรองผลการสอบ JLPT
ผู้เข้าสอบทุกคนจะได้รับใบแจ้งผลการสอบถึงแม้ว่าจะสอบผ่านหรือไม่ผ่านก็ตาม และในใบแจ้งผลการสอบนั้นจะมีการบอกคะแนนดิบในแต่ละพาร์ทรวมไปถึงคะแนนรวมอีกด้วย ในขณะที่ผู้เข้าสอบที่สอบผ่าน จะได้รับใบรับรองผลการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น หรือ Certificate Japanese Language Proficiency ผลสอบนั้นจะไม่มีวันหมดอายุ แต่บางกรณีมหาวิทยาลัยหรือบริษัทอาจจะขอผลสอบที่มีอายุจำกัดก็เป็นได้
Owl Campus ขอให้กำลังใจน้องๆที่กำลังเตรียมตัวสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น JLPT ลองนำโจทย์ของปีเก่าๆมาลองทำดู เพื่อที่จะได้รู้ว่าแนวทางข้อสอบ และยังทำให้เรารู้ว่ามีจุดไหนที่ต้องปรับปรุงเพิ่มเติม การเลือกเรียนกับโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นที่ดีก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
Owl Campus Team