โลกของเรานั้นหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามวัฏจักร บางสิ่งที่เคยได้รับความนิยมในอดีต เมื่อเวลาผ่านไปอาจล้าสมัยไปแล้วก็เป็นได้ นั่นเป็นธรรมดาของโลกซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนไปของอะไรหลาย ๆ อย่าง ในโลกของการศึกษาก็เช่นกัน ที่จะต้องมีการปรับตัวให้ทันเทคโนโลยี

ในช่วงหลายปีมานี้มีคนจำนวนมาก หันมาให้ความสนใจกับ “สะเต็มศึกษา” การศึกษายุคใหม่ที่จะเข้ามาเป็นหัวใจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลก ชี้ให้เห็นว่าอาชีพสาขาสะเต็มจะกลายเป็นที่นิยมอย่างสูงสุด ในขณะเดียวกันทักษะแห่งศตวรรษที่  21 ไม่ว่าจะเป็น ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ ทักษะความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ก็ยังคงเป็นทักษะสำคัญในโลกแห่งอนาคต นั่นหมายความว่าการเรียนรู้ใน สะเต็มศึกษา จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ได้อย่างยอดเยี่ยม ในบทความนี้เราจะพามาดู 10 ข้อดีโดนใจ ที่ลูกของคุณจะได้รับจากสะเต็มศึกษา อย่ารอช้า…มาเริ่มกันเลย

1. สะเต็มศึกษาช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์

คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่คงเคยได้ยินใครต่อใครบอกว่า “การคิดนอกกรอบ” เป็นสิ่งสำคัญที่จะพัฒนาเด็ก แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า…การจะสอนลูกให้คิดนอกกรอบนั้นต้องทำอย่างไร!?

“ความคิดสร้างสรรค์” เป็นหัวใจสำคัญของสะเต็มศึกษา เด็กทุกคนที่ได้เรียนสะเต็มศึกษา พิสูจน์แล้วว่า พวกเขาได้เรียนรู้การคิดนอกกรอบที่ไม่เหมือนใคร และที่สำคัญ พวกเขายังสามารถนำความคิดนอกกรอบนี้ ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างสร้างสรรค์อีกด้วย

2. สะเต็มศึกษาสร้างทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น

อย่างที่เราได้เกริ่นไปข้างต้นว่า การทำงานเป็นทีมคือทักษะที่สำคัญมากทั้งในยุคนี้และในโลกแห่งอนาคต บ่อยครั้งในโลกแห่งความเป็นจริง ทุกการทำงานเราจะต้องอาศัยการแก้ไขปัญหาร่วมกับทีมจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ด้วยเหตุนี้ สะเต็มศึกษาจีงได้นำการเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่น เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งเพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ด้วยนั่นเอง

ลูกของคุณจะได้เรียนรู้ทักษะการสื่อสารอย่างทรงพลัง และทักษะความเป็นผู้นำในการทำงานเป็นทีมให้สำเร็จไปได้ด้วยดี

3. สะเต็มศึกษาสร้างทักษะการสื่อสารอย่างมีคุณภาพ

การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตมากที่สุด ทักษะความสามารถในการอธิบายและถ่ายทอดเรื่องราวอันซับซ้อนให้เข้าใจง่าย เพื่อสื่อสารหรือแลกเปลี่ยนกับผู้อื่น เป็นกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จในชีวิตของเด็ก ๆ รุ่นต่อไปในอนาคต

ด้วยเหตุนี้เองสะเต็มศึกษาจึงได้มีการออกแบบการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะการเข้าสังคมและการสื่อสาร เช่น การฟังอย่างมีประสิทธิผล การเปิดใจยอมรับ และการรู้จักรับฟังความเห็นจากผู้อื่น เป็นต้น

4. สะเต็มศึกษาสร้างทักษะการคิดเชิงวิพากษ์

สะเต็มศึกษาได้มีการมุ่งเน้นการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงวิพากษ์ ซึ่งก็คือ “การคิดเชิงนำไปประยุกต์ใช้จริง” การวิเคราะห์อย่างรอบคอบ มีการประเมินข้อมูลอย่างละเอียดโดยผ่านการสังเกต การไตร่ตรอง การใช้เหตุผล รวมไปถึงการสื่อสาร

ดังนั้น การเรียนแบบสะเต็มศึกษา จะทำให้ลูกของคุณได้ฝึกฝนทักษะเหล่านี้ตั้งแต่เด็ก พวกเขาจะได้ฝึกให้กลายเป็นคน กล้าคิด กล้าแสดงออก และกล้าตอบคำถามในชั้นเรียน มากไปกว่าการเรียนแบบท่องจำ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมกับชั้นเรียนและได้ฝึกการคิดอย่างมีตรรกะ

แน่นอนเลยว่า การให้ลูกได้สั่งสมประสบการณ์ตั้งแต่ในห้องเรียน พวกเขาจะสามารถเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในโลกแห่งอนาคตได้อย่างแน่นอน

5. สะเต็มศึกษากระตุ้นความสนใจในการเรียนรู้

การเริ่มต้นเรียนรู้สำหรับเด็กวัยประถม โดยให้ลูกรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัยเป็นสิ่งสำคัญมาก ด้วยเหตุนี้เองสะเต็มศึกษา จึงสามารถเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ให้กับเด็ก ๆ ได้ ภายในคลาสเรียนจะเน้นส่งเสริมให้เด็กทุกคนได้มีอิสระในการตั้งคำถาม ในทุก ๆ เรื่องที่สงสัยว่า “ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น!?” และ “เป็นไปได้อย่างไร!?” ซึ่งการตั้งคำถามเหล่านี้ เป็นการกระตุ้นให้เด็กได้ฝึกใช้ความคิด ฝึกหาวิธีการแก้ไขปัญหาสุดล้ำ เป็นแรงผลักดันสำคัญ ที่ทำให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมในโลกแห่งอนาคตได้อย่างเหลือเชื่อ

6. สะเต็มศึกษาสร้างการเรียนรู้อย่างยืดหยุ่น

การเปิดพื้นที่ให้เด็ก ๆ ได้กล้าลองผิดลองถูกนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากในการเรียนรู้ สะเต็มศึกษาได้ออกแบบการเรียนรู้ให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เพื่อให้เด็ก ๆ ได้กล้าล้มเหลว กล้าลองผิดลองถูก โดยมีหัวใจสำคัญ คือ การให้คุณค่ากับความล้มเหลว “เพราะความล้มเหลวจะเป็นบ่อเกิดของการเรียนรู้ของเด็ก ๆ” 

เมื่อเด็กเข้าใจและยอมรับได้ว่า ความผิดพลาดเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดการเรียนรู้ พวกเขาจะมีความมั่นใจ และสามารถฝ่าฟันกับอุปสรรคที่ท้าทายได้เมื่อโตขึ้น เป็นสิ่งสำคัญที่จะพาลูกของคุณไปสู่เส้นชัยแห่งความสำเร็จ

7. สะเต็มศึกษาผลักดันให้เป็นนักทดลอง

หากโลกใบนี้ปราศจากการทดลอง พวกเราคงไม่ได้เห็นนวัตกรรมสุดล้ำที่เกิดขึ้นมากมายบนโลกใบนี้ นวัตกรรมบนโลกใบนี้ ล้วนเกิดจากการทดลองอย่างไม่หยุดยั้งจนประสบความสำเร็จ สะเต็มศึกษาจึงได้นำแนวคิดนี้มาใช้เป็นส่วนสำคัญในการเรียนรู้  “ลูกของคุณจะได้ทำกิจกรรมเพื่อทดลองและฝึกความกล้าที่จะเผชิญกับความเสี่ยง” สิ่งเหล่านี้จะเป็นทักษะสำคัญ ให้พวกเขาเติบโตในโลกแห่งอนาคตได้อย่างสมบูรณ์แบบ

8. สะเต็มศึกษาส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี

บนโลกที่รายล้อมไปด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เด็กยุคใหม่เติบโตมาพร้อมกับสิ่งเหล่านี้เลยก็ว่าได้ สะเต็มศึกษาจึงเน้นการส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้ โดยใช้เทคโนโลยีสุดทันสมัยเป็นสื่อกลางการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง นั่นทำให้ลูกของคุณเกิดความคุ้นเคยและปรับตัวได้ง่าย เมื่อต้องเจอกับเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาและเกิดขึ้นใหม่อยู่ตลอดเวลา

9. สะเต็มศึกษาสอนให้เด็กปรับตัวไวในทุกสถานการณ์

การจะประสบความสะเร็จในชีวิตได้นั้น เด็ก ๆ จะต้องนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์จริงได้อย่างทันท่วงที นี่จึงเป็นข้อดีที่ลูกของคุณจะได้ทักษะนี้จากสะเต็มศึกษา ลูกของคุณจะได้ฝึกการนำความรู้ที่มีมาใช้ในการแก้ไขปัญหาในเหตุการณ์จริงได้อย่างทันทีทันใด จนกลายเป็นเด็กที่มีความสามารถในการปรับตัวได้ไวกับทุกสถานการณ์

10. สะเต็มศึกษาคืออาชีพในโลกแห่งอนาคต

สะเต็มศึกษา เป็นการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อเตรียมตัวให้ลูกของคุณมีความพร้อมและเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในยุคดิจิทัล  หากลูกของคุณได้รู้จักสะเต็มตั้งแต่อายุยังน้อย นั่นคือโอกาสที่ลูกจะได้ทำความรู้จัก มองหาโอกาส และฝึกทักษะสำคัญที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในศตวรรษที่ 21 อีกด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 10 ข้อดีโดนใจ ที่ลูกของคุณจะได้รับจากสะเต็มศึกษา เป็นการเปิดโลกทัศน์แห่งการเรียนรู้ยุคใหม่ที่เรียกได้ว่า ใครมีติดตัวไว้ได้ใช้แน่ ไม่ว่าจะใช้ในการทำงาน หรือการใช้ชีวิตในโลกอนาคต!

แนะนำบทความน่าอ่าน : 10 เหตุผลว่าทำไมควรให้ลูกได้เรียน Coding ตั้งแต่ชั้นประถม

STEM ได้ออกแบบและคัดสรรมาแล้วว่าครอบคลุมทุกทักษะสำคัญ และเป็นประโยชน์อย่างมากแก่ลูกของคุณ เรามาเตรียมความพร้อมให้เด็ก ๆ พร้อมสำหรับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 กันเถอะ

ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21