“ประกันสุขภาพ” ปัจจัยและสิ่งสำคัญที่มักพบเจอเป็นประจำในขั้นตอนการไปเล่าเรียนต่อยังต่างประเทศ ถ้าหากวีซ่าคือเอกสารที่สำคัญที่สุด สิ่งที่จำเป็นลดหลั่นกันลงมาก็เห็นจะเป็นประกันสุขภาพนี่แหละ ที่บางประเทศ ประกันสุขภาพของนักเรียนต่างชาติ กลับกลายเป็นสิ่งบังคับ ชนิดที่ไม่มีได้ และถูกจัดแจงลงในข้อกำหนดที่ต้องทำอีกด้วย

แต่นั่นก็ไม่ใช่วิถีปฏิบัติกับอีกหลายประเทศ ถึงแม้เอกสารประกันและการคุ้มครองความเจ็บป่วยเหล่านี้จะสำคัญยิ่งชีพ แต่รู้หรือไม่ว่า บางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา เจ้าประกันสุขภาพ ก็ไม่ได้เป็นขั้นตอนเชิงบังคับไปเสียทีเดียว และอาจดูแตกต่างไปจากเดิมสักหน่อย วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันในม้วนเดียวจบ กับระบบประกันสุขภาพของนักเรียนต่างชาติในสหรัฐอเมริกา สิ่งเหล่านี้จำเป็นมากน้อยแค่ไหน ต้องทำทุกคนหรือไม่ และมีรูปแบบอย่างไรบ้าง

สิ่งที่ควรรู้สำหรับ “ประกันสุขภาพของนักเรียนต่างชาติ” ใน USA

สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศหนึ่งที่ไม่ได้มีข้อกำหนดเรื่องประกันสุขภาพของนักเรียนต่างชาติภาคบังคับไปเสียทั้งหมด จากข้อมูลวีซ่านักเรียนของอเมริกาหลัก ๆที่นักเรียนไทยมักถือกันอย่างแพร่หลายได้แก่ F-1 คือวีซ่านักเรียนที่ใช้จ่ายด้วยทุนส่วนตัว ไม่ได้มีข้อผูกมัดกับหน่วยงานใด เช่น การไปเรียนระดับปริญญา หรือ การเรียนคอร์สภาษา และ J-1 คือวีซ่าสำหรับนักเรียนแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม หรือ ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรอื่น ๆ เช่น โครงการ Work and Travel หรือ นักเรียนแลกเปลี่ยน ซึ่งทั้ง 2 วีซ่ามีข้อกำหนดในเรื่องประกันสุขภาพที่แตกต่างกัน

สำหรับ วีซ่า F-1 ตามกฎหมายของประเทศแล้วนั้น การที่นักเรียน – นักศึกษาจะเดินทางไปเล่าเรียนต่อในอเมริกาด้วยวีซ่าฉบับนี้ อาจไม่จำเป็นต้องทำประกันสุขภาพเพื่อได้มาซึ่งวีซ่านักเรียน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เด็ก ๆ จะไม่จำเป็นต้องสมัครประกันสุขภาพเสียทีเดียว เนื่องจากประกันสุขภาพเหล่านี้จะถูกร้องขอจากสถาบันการศึกษาโดยตรง หลายสถานศึกษามักมีข้อกำหนดที่เป็นรายลักษณ์อักษรว่าจำเป็นต้องใช้ประกันสุขภาพเพื่อยื่นสมัครเรียนโปรแกรมที่แตกต่างกันไป ในบางสถาบันอาจบังคับ บางสถาบันอาจจะไม่ หรือเข้าใจอีกอย่างได้ว่า ประกันสุขภาพไม่ได้ถูกบังคับให้มีเพราะการยื่นขอวีซ่า F-1 แต่จะถูกบังคับเป็นกรณี ๆ ตามแต่ละสถาบันการศึกษาที่ร้องขอมาในขั้นตอนการยื่นสมัครเรียนนั่นเอง

ในส่วนของวีซ่า J-1 สำหรับนักเรียนแลกเปลี่ยนและเด็ก ๆ ในโครงการ Work and Travel และอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติ เพราะนั่นคือ 1 ในขั้นตอนที่จะได้มาซึ่งวีซ่า เงื่อนไขแผนประกันจะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของกฎระเบียบ

ประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติ 1 ในขั้นตอนที่จะได้มาซึ่งวีซ่า
ประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติ 1 ในขั้นตอนที่จะได้มาซึ่งวีซ่า

4 ขั้นตอนสำคัญ ในการพิจารณาประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ

หากนักเรียน – นักศึกษาคนใดที่จำเป็นต้องสมัครประกันสุขภาพ ไม่ว่าจะด้วยข้อบังคับทางวีซ่าหรือกฎระเบียบจากสถาบัน ขั้นตอนการพินิจ – พิจารณา รวมถึงการวางแผน จึงเป็นอีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ประหยัดเวลา เตรียมตัวได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง

1. อย่าลืมตรวจสอบประกันจากสถาบันศึกษา

ในบางสถาบันจะมีข้อกำหนดให้นักศึกษาสมัครประกันกลุ่มภาคบังคับที่ทางสถาบันเป็นผู้จัดหาให้ ซึ่งประกันดังกล่าวจะมีแผนครอบคลุมตามที่สถานศึกษากำหนด อาจรวมอยู่กับค่าเทอมในบางแห่ง แต่ถึงอย่างนั้น ทางผู้เรียนสามารถเลือกได้ว่าจะรับหรือไม่ หากรับสามารถชำระเงินตามขั้นตอนของสถาบันนั้น ๆได้ ในบางสถานศึกษา จะให้อิสระผู้เรียน สามารถเลือกประกันสุขภาพตามที่ต้องการได้ แต่จะต้องเป็นแผนคุ้มครองในด้านสุขภาพตามที่สถาบันกำหนด และทางโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าแผนนั้นเหมาะสมหรือไม่ ผ่านทาง แบบฟอร์มยินยอม (Waiver Form)

2. ต้องไม่ลืมที่จะตรวจสอบผู้ให้บริการ

หากนักเรียน – นักศึกษาคนใดที่ทางสถาบันบังคับให้ทำประกันสุขภาพจากทางสถานศึกษา อาจไม่จำเป็นต้องตรวจสอบผู้ให้บริการด้วยตนเอง แต่สำหรับนักเรียนคนใด ที่จำเป็นต้องมองหาตัวเลือกประกันสุขภาพตามความต้องการ อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพึงตรวจสอบเสมอ นั่นคือ การศึกษาข้อมูลและตรวจสอบผู้ให้บริการเหล่านั้นเสมอ ว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ และได้รับการยอมรับจากสถาบันส่วนใหญ่หรือเปล่า ซึ่งในข้อนี้ อาจจำเป็นต้องสอบถามผู้เชี่ยวชาญหรือเจ้าหน้าที่สถาบันศึกษาร่วมด้วย

3. เช็คผลประโยชน์ให้ตรงกับความต้องการ

อีกสิ่งสำคัญที่ต้องทำก่อนจะตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ นั่นคือการลองจดสิ่งที่จำเป็นต่อตัวเอง ที่เราต้องการให้ประกันเหล่านั้นคุ้มครอง แล้วเปรียบเทียบกับผลประโยชน์จากผู้ให้บริการที่อยู่ในการพิจารณา ถ้าหากการไปเล่าเรียนของเรามีผู้ติดตาม การมองหาแผนประกันจะต้องครอบคลุมไปถึงบุคคลเหล่านั้นด้วย

4. เลือกสิ่งที่ใช่ แล้วไปกันเลย

มาถึงขั้นตอนสุดท้าย หลังจากที่เราตรวจสอบทั้ง 3 ข้อด้านบนกันเป็นอย่างดีแล้วนั้น และพบว่ามีแผนประกันสุขภาพที่ตรงความต้องการ บวกกับการคุ้มค่า เป็นมิตรต่อเงินในกระเป๋า ก็ไม่รีรอที่จะซื้อประกันเหล่านั้นมาไว้ เพื่อให้อุ่นใจ และเป็นประโยชน์ต่อการยื่นวีซ่า หรือ การยื่นสมัครเรียน

สิ่งที่ควรรู้สำหรับ ‘ประกันสุขภาพของนักเรียนต่างชาติ’ ใน USA
“ประกันสุขภาพของจำเป็นของนักเรียนต่างชาติในอเมริกา”

5 ผู้ให้บริการสุดคุ้มใน USA สำหรับนักเรียนต่างชาติ

IMGlobal

IMGlobal หรือ IMG ผู้ให้บริการประกันที่มีชื่อเสียงรายหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ด้วยประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการกว่า 25 ปี ทำให้แผนประกันจากที่นี่มีความหลากหลายไม่แพ้ที่อื่น ๆ สำหรับนักเรียนต่างชาติแล้วนั้น ที่ IMG ก็มีแผนประกันถึง 3 ตัวเลือกที่เหมาะและคุ้มค่าที่สุด ได้แก่

  • Patriot Exchange Program: เหมาะกับนักเรียนต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ถือวีซ่า J-1 / J-2 มีตัวเลือกวงเงินคุ้มครองตั้งแต่ $50,000 / $100,000 / $250,000 ในปัจจุบันมีรวมการคุ้มครองโรคโควิด-19
  • Student Health Advantage: วงเงินคุ้มครองสูงสุด $500,000 ต่อบุคคล  Student Health Advantage Platinum: ตัวเลือกแบบแผนนี้คล้ายกันกับด้านบน เพียงแต่จะมีการคุ้มครองที่มากกว่าเป็น 2 เท่า โดยวงเงินคุ้มครองสูงสุดอยู่ที่ $1,000,000

Cigna Global

Cigna Global หนึ่งในผู้ให้บริการประกันสุขภาพรายใหญ่ของโลก มีแบบแผนรองรับสำหรับทั้งนักท่องเที่ยว ผู้เดินทาง ตลอดจนนักเรียนต่างชาติ และปกติแล้ว Cigna จะมีแผนประกันสุขภาพสำหรับชาวต่างชาติ ทั้งหมด 3 แบบแผน ได้แก่ Silver / Gold / Platinum

Floyer Global Health

หนึ่งในผู้ให้บริการที่สามารถออกแบบแผนการคุ้มครองได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะต้องการแบบใด ระยะเวลามากน้อยแค่ไหน จะแบบพื้นฐานหรือขั้นสุด ก็มีพร้อม ซึ่งที่นี่ มีแบบแผนให้เลือกทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ Essential / Especial / Exclusive

HCC Medical Insurance Service (HCCMIS)

อีกหนึ่งในผู้ให้บริการประกันสุขภาพที่เป็นมิตรต่อนักเรียน – นักศึกษาต่างชาติ และนักเรียนทุน มีตัวเลือกแบบแผนที่เหมาะกับผู้เรียนทั้งสิ้น 4 รูปแบบ ได้แก่ Student Secure Elite / Student Secure Select/  Student Secure Budget / Student Secure Smart ตัวเลือกทั้งหมดมีคุณสมบัติในการยื่นวีซ่า J-1 ได้

Global Underwriters

ผู้ให้บริการประกันสุขภาพที่เสนอตัวเลือกที่ดีให้แก่นักเดินทาง นักศึกษาต่างชาติ ตลอดจนนักเรียนทุนและนักเรียนแลกเปลี่ยน จากแบบแผนของผู้ให้บริการเจ้านี้ มี 3 แบบที่แผนที่น่าสนใจ ได้แก่ Diplomat Long Term / Diplomat International for International Student และ Diplomat America สำหรับผู้ศึกษาต่อในอเมริกาโดยเฉพาะ ที่สำคัญ การคุ้มครองสูงสุด ยังมีวงเงินอยู่ที่ $1,000,000 อีกด้วย พร้อมกับการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง


ถึงแม้ในบางสถาบันจะมีรูปแบบการร้องขอประกันสุขภาพทั้งเชิงบังคับและไม่บังคับ แต่การถือประกันสุขภาพไว้ในมือ ก็คือหนึ่งในความอุ่นใจ เพราะอย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดี การไปเรียนต่อยังต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะยาวมากกว่า 6 เดือน การอยู่อาศัยในชีวิตประจำวัน เราต่างไม่สามารถคาดเดาอาการเจ็บป่วยหรือแม้แต่อุบัติเหตุได้เลย ยิ่งในประเทศที่มีค่าเงินสูงกว่าประเทศไทย การใช้จ่ายยามจำเป็นแบบนี้จะนำพาไปสู่ปัญหาการเงินได้ในอนาคต ฉะนั้น การถือประกันสุขภาพที่ตรงกับความต้องการในมือก็จะช่วยแบ่งเบาภาระ – อำนวยความสะดวกได้ไม่มากก็น้อยตลอดการใช้ชีวิต ณ ที่แห่งนั้น.