ศิลปะเป็นศาสตร์ความรู้แขนงหนึ่งที่มีมาอย่างยาวนาน ศิลปินชื่อก้องโลกทั้งหลายกว่าจะมีผลงานอันโด่งดังขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพราะเขาเหล่านั้นมีพรสวรรค์มาตั้งแต่เกิด แต่เพราะเขาเหล่านั้นมีพรแสวง เกิดจากความใฝ่รู้ใฝ่เรียน เกิดจากการฝึกฝน ลองผิดลองถูกครั้งแล้วครั้งเล่า สั่งสมประสบกาณ์อยู่นานหลายปีจนสามารถถ่ายทอด สร้างสรรค์ผลงานอันยอดเยี่ยมออกมาให้เราได้ชื่นชมกัน

ในเมื่อผลงานอันยอดเยี่ยมเกิดจากการร่ำเรียนที่ยาวนาน แล้วเมื่อไหร่ล่ะ!? ที่เป็นเวลาอันเหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นเรียนรู้ศิลปะ ลองมาดูข้อมูลต่อไปนี้นี้กันหน่อยดีกว่าว่าน้อง ๆ “ควรเริ่มต้นเรียนศิลปะเมื่อไหร่!?” และในแต่ละช่วงอายุ นั้นควรเรียนศิลปะแบบไหน!

ควรเริ่มเรียนศิลปะเมื่อไหร่?

ปัจจุบันมีสถาบันสอนศิลปะเกิดขึ้นมากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนที่มีความสนใจในด้านศิลปะโดยเฉพาะ ตั้งแต่ระดับเด็กเล็กไปจนถึงระดับที่เรียนจริงจัง เข้าคลาสอบรมเพื่อนำไปใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัย นำไปใช้ประกอบอาชีพ “หรือแม้กระทั่งเนอสเซรี่ที่รับดูแลเด็กเล็ก ก็มักจะมีกิจกรรมด้านศิลปะให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้อยู่เสมอ” แล้วแบบนี้เราควรจะเริ่มเรียนศิลปะตอนไหน เริ่มตอนโตแล้วจะยังทันไหม หรือควรให้ลูกเริ่มเรียนตั้งแต่กี่ขวบดี

ขอแนะนำว่าการเริ่มเรียนศิลปะตั่งแต่เนิ่น ๆ นั้นเป็นสิ่งที่ดี สถาบันสอนศิลปะส่วนใหญ่อาจเริ่มรับเด็กนักเรียนตั้งแต่ 4-5 ปี เนื่องจากเป็นวัยที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในระดับหนึ่ง สามารถเคลื่อนไหวร่างกายและพูดคุยสื่อสารได้ดีแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าการเรียนรู้ศิลปะ สามารถทำได้ก่อนหน้านั้นเสียอีก เพราะสมองของมนุษย์เราเริ่มมีการเติบโตและพัฒนาการตั้งแต่เป็นทารกในครรภ์เลยทีเดียว!

ควรเริ่มเรียนศิลปะเมื่อไหร่?
ในปัจจุบัน เนอสเซรี่ที่รับดูแลเด็กเล็ก มักจะมีกิจกรรมด้านศิลปะให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้อยู่เสมอ

ในช่วงอายุ 0-4 ปี สมองของมนุษย์จะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยสามารถพัฒนาได้มากที่สุดถึงร้อยละ 80 ส่วนอีกร้อยละ 20 ที่เหลือ จะค่อย ๆ พัฒนาตามลำดับ

การเติบโตของสมองนั้นน่าอัศจรรย์มาก เพราะสมองอายุแค่ 10 ปี ก็มีขนาดพอ ๆ กับสมองของผู้ใหญ่แล้ว และจะเติบโตต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงอายุ 25 ปีเท่านั้น หลังจากอายุ 25 ปีเป็นต้นไปสมองจะไม่มีการเติบโตอีก

แบบนี้แสดงว่าก็ต้องรีบเรียนศิลปะ เรียนเรียนทุกสิ่งทุกอย่างก่อนจะถึงอายุ 25 รึเปล่านะ?

คำตอบคือไม่ใช่เลย… เนื่องจากการหยุดโตของสมองในที่นี้ หมายถึงขนาดของสมองจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหลังจากอายุพ้น 25 ไปแล้ว อย่างไรก็ตามระบบประสาท วงจรในสมองทั้งหลายของมนุษย์ที่มีความเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้และความจำ จะยังคงมีพัฒนาการ มีการเจริญเติบโต และยังสามารถสร้างเซลล์ประสาทใหม่ ๆ ได้อยู่เสมอ ไม่ว่าคุณจะอายุ 30, 65 หรือย่างเข้า 80 ปีแล้วก็ตาม เรียกได้ว่าเซลล์ประสาทของมนุษย์จะยังคงมีพัฒนาการต่อไปได้เรื่อย ๆ จนกว่าเราจะสิ้นอายุขัยเลยแหละ

แต่ละช่วงอายุควรเรียนศิลปะแบบไหน?
เซลล์ประสาทของมนุษย์ จะยังคงมีพัฒนาการต่อไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเรียนรู้

สรุปได้ว่าไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเรียนรู้ มนุษย์เราสามารถเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ ได้ตลอดเวลาตลอดช่วงชีวิตของเรา แต่ถ้าจะถามว่า “ควรเริ่มเรียนศิลปะเมื่อไหร่” คำตอบคือ ควรเริ่มเรียนตั้งแต่เด็กโดยเฉพาะช่วง 0-6 ปี เพราะเป็นช่วงที่สมองมีการเจริญเติบโตเป็นอย่างมาก สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

อีกสิ่งที่สำคัญหากคุณพ่อคุณแม่สนับสนุน และส่งเสริมให้ลูกได้เรียนศิลปะตั้งแต่วัยเด็กควรนึกไว้อยู่เสมอนั้นคือ “การเรียนศิลปะในเด็กเป็นการส่งเสริมเพื่อให้เขาได้เรียนรู้ ได้พบเจอประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อเป็นการพัฒนาสมอง ฝึกสมาธิ ฝึกคิด และใช้จินตนาการได้อย่างอิสระเสรี” กิจกรรมด้านศิลปะหลายกิจกรรม สร้างขึ้นมาเพื่อให้เด็กได้รู้จักกับสุนทรียภาพ สามารถผ่อนคลายปลดปล่อยอารมณ์ผ่านศิลปะ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรกดดัน หรือคาดหวังว่าเมื่อลูกได้เรียนศิลปะตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วจะต้องทำได้ดี เป็นเลิศทางศิลปะ โตมาเป็นศิลปินแถวหน้า

ขอให้ผู้ปกครองทุกท่านมองว่าศิลปะเป็นอีกกิจกรรมหนึ่ง ที่ทำให้เจ้าตัวเล็กได้สนุกสนานและพัฒนาสมอง ส่วนเรื่องอื่นขอให้ปล่อยไปเป็นเรื่องของอนาคต หากเจ้าตัวน้อยชื่นชอบงานศิลปะอย่างจริงจังขึ้นมาเมื่อไหร่เขาจะหาเส้นทางของตัวเองได้อย่างแน่นอน!!

แนะนำอ่านต่อ : ทำไมเราถึงควรส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้รับการเรียนศิลปะ!?

แต่ละช่วงอายุควรเรียนศิลปะแบบไหน?

พัฒนาการของเด็กนั้น จะมีประสิทธิภาพมากระหว่าง 0-6 ปี แต่ก็ใช่ว่าเด็กทุกช่วงวัยจะเหมาะกับกิจกรรมทางศิลปะไปเสียทุกประเภท มาดูกันดีกว่าว่ากิจกรรมประเภทไหนเหมาะสมกับเด็กในช่วงอายุไหนกันบ้าง

  • ช่วง 0-2 ปี เป็นช่วงที่เด็กจะสามารถเรียนรู้ได้จากประสาทสัมผัสตา หู ลิ้นและจมูก กิจกรรมทางศิลปะที่เหมาะกับเด็กวัยนี้จึงเป็นการให้เขาได้เห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคย สร้างความทรงจำเกี่ยวกับรูปร่างรูปทรงต่าง ๆ 
  • ช่วง 2-4 ปี  ควรฝึกกล้ามเนื้อมือให้แข็งแรง ปล่อยให้เขาจับดินสอขีด ๆ เขียน ๆ ระบายสีเพื่อฝึกกล้ามเนื้อไปก่อน หรือให้ลองจับลองปั้นดินน้ำมันเพื่อเสริมให้เขาได้รู้จักใช้ตามองไปพร้อม ๆ กับการลงมือทำ ให้เขาได้ออกแรงเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมือ แขน และส่วนอื่น ๆ 
  • ช่วง 4-7 ปี สามารถขีดเขียนรูปทรงต่าง ๆ อย่างวงกลม สี่เหลี่ยม กากบาทได้ เรียนรู้ที่จะปั้นดินน้ำมันเป็นรูปร่างลักษณะอย่างคร่าว ๆ ได้ สามารถฉีกระดาษ ใช้กาว สร้างงานศิลปะประเภทตัดแปะได้ สร้างงานประเภทภาพพิมพ์ก็ได้ เช่น ใช้มือ เท้า ใบไม้ มาเป็นแม่พิมพ์ แต่งานศิลปะของเด็กวัยนี้จะยังไม่ใช้งานแบบเสมือนจริง
  • ช่วง 7-9 ปี เด็ก ๆ จะเริ่มวาดภาพ เริ่มปั้นดินน้ำมันได้โดยเลียนแบบจากสิ่งที่เขาสังเกตเห็นเพื่อสร้างเป็นงานเสมือนจริง นอกจากนี้ยังโตพอที่จะกรรไกรตัดกระดาษ สอนให้รู้จักประยุกต์เอาสิ่งต่าง ๆ มาประดิษฐ์เป็นของเล่นของใช้เพื่อพัฒนาความคิดและจินตนาการไปอีกขั้น

สิ่งที่ควรระมัดระวังระหว่างที่เจ้าตัวน้อยกำลังเรียนรู้ศิลปะก็คือความปลอดภัย

โดยเฉพาะในวัยที่เด็กมาก ๆ การทำกิจกรรมอย่างการปั้นดินน้ำมันผู้ปกครองควรสังเกตอยู่เสมอไม่ให้เด็กเผลอเอาเข้าปาก การใช้กรรไกร, คัตเตอร์ของมีคมทั้งหลายควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองหรือผู้สอนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

แนะนำอ่านต่อ : การเล่นและฟังดนตรีช่วยเพิ่ม EQ ในเด็กได้จริงหรือ?

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ก็รู้แล้วว่าศิลปะ สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่เด็ก ๆ เลย เราสามารถเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ ได้ตั้งแต่เล็กเลย เพียงแค่เราต้องเลือกประเภทของกิจกรรมให้เหมาะสมกับช่วงวัยเท่านั้นเอง ถ้าคุณพ่อคุณแม่ชอบบทความแบบนี้ สามารถติดตามบทความทั้งหมดได้ที่นี่ค่ะ “กิจกรรมนอกหลักสูตร” อย่าลืมแชร์เพื่อช่วยสนับสนุนพวกเราด้วยนะคะ.