ในปัจจุบันที่โลกของเรากำลังถูกขับเคลื่อนไปข้างหน้า ด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย เด็กยุคใหม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่าย และรวดเร็วขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “โค้ดดิ้ง” จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญที่เด็ก ๆ ควรเริ่มต้นศึกษาให้ได้โดยเร็วที่สุด 

โดยที่ในช่วงหลายปีมานี้ โรงเรียนทั่วโลกได้นำ “วิชาโค้ดดิ้ง” เข้าไปเป็นวิชาพื้นฐานที่เด็ก ๆ จะต้องได้เรียนในโรงเรียน โดยเด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ตั้งแต่แนวคิดพื้นฐานของการเขียนโค้ด จนสามารถนำไปพัฒนาต่อได้ ในระดับที่ท้าทายขึ้นต่อไป สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ยังมีคำถามว่า “Coding คืออะไร? ทำไมเด็กยุคใหม่ถึงต้องเรียน? แล้วให้ลูกเริ่มต้นแต่เด็กจะเร็วไปมั้ย?” เราจะพาไปหาคำตอบกัน

Coding คืออะไร!?

“โค้ดดิ้ง คือ การป้อนคำสั่งด้วยภาษาคอมพิวเตอร์” โดยปกติแล้วคอมพิวเตอร์ไม่ได้ฉลาดและเข้าใจภาษาเดียวกับมนุษย์ ดังนั้นการป้อนคำสั่ง จึงต้องใช้ภาษาที่มีความเฉพาะเจาะจง สำหรับคอมพิวเตอร์ หรือที่เราเรียกว่า “ภาษาคอมพิวเตอร์” นั่นเอง

เทคโนโลยีเกือบทั้งหมดที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ล้วนถูกสร้างมาจากการเขียนโปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ หากนึกถึงสิ่งใกล้ตัว ที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน โปรแกรมในคอมพิวเตอร์ หรือว่าวิดีโอเกมโปรดของเด็ก ๆ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วน ที่สร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์ ด้วยการโค้ดดิ้งทั้งสิ้น

เรามาทำความเข้าใจการทำงานของโค้ดดิ้งง่าย ๆ กัน ในเมื่อโค้ดดิ้งคือการป้อนคำสั่งด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์จึงต้องอาศัยคำสั่งที่ละเอียด และเฉพาะเจาะจงมาก ๆ ในทุกกรณีของเหตุการณ์ทั้งหมดที่น่าจะเป็นไปได้

Coding คืออะไร? ทำไมเด็กยุคใหม่ถึงต้องเรียน
การเลือกเส้นทางการเดินทาง เป็นเหตุการณ์ที่ต้องอาศัยการ ตัดสินใจ หรือ คำสั่ง

ให้ลองนึกภาพว่า ในขณะที่เรากำลังจะไปซื้อนม แน่นอนว่าในหัวของเรามักมีเรื่องต่าง ๆ มากมายให้ “เราตัดสินใจอยู่ตลอดเวลา” โดยที่เราแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เช่น

  1. การตัดสินใจเลือกเส้นทางการเดินทางไปซื้อ ระหว่างทางปกติ หรือทางด่วน
  2. การตัดสินใจในการเลือกซื้อนม เมื่อเจอโปรโมชั่นที่ถูกกว่า หรือในราคาปกติ
  3. การเลือกวิธีชำระเงิน ระหว่างเงินสด หรือบัตรเครดิต และทางเลือกอื่น ๆ

เราจะเห็นว่าอาจจะมีเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้มากมาย และทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องใช้การตัดสินใจทั้งสิ้น การตัดสินใจสำหรับมนุษย์นั้นเป็นสิ่งปกติ แต่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถตัดสินใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง ยกเว้นแต่ว่า เรากำหนดคำสั่งให้คอมพิวเตอร์ การป้อนคำสั่งให้คอมพิวเตอร์จึงมีความซับซ้อน แต่หากได้เริ่มต้นศึกษาและฝึกฝนแล้วล่ะก็ จะเป็นฮาร์ดสกิลที่ต่อยอดโอกาสให้กับเด็ก ๆ ในอนาคตอย่างแน่นอน

ประโยชน์มากมายที่ลูกจะได้เมื่อเรียน “โค้ดดิ้ง”

โค้ดดิ้ง เปรียบเสมือนภาษาที่ 3 ที่ใคร ๆ ก็สามารถเริ่มต้นฝึกฝนได้ตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังให้ประโยชน์ที่นำไปใช้ต่อยอดในอาชีพต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นักพัฒนาเว็บไซต์ Frontend/Backend นักออกแบบ UX/UI หรือ Software Engineer ซึ่งเป็นทักษะที่มีความต้องการสูงมากในตลาดเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน!

นอกจากนี้ประโยชน์ของโค้ดดิ้ง “ไม่ได้ให้แค่เพียงทักษะใดทักษะหนึ่งแต่เพียงเท่านั้น” แต่การฝึกเขียนโค้ด จะมอบประโยชน์อีกมากมายให้กับเด็ก ๆ อย่างน่าเหลือเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น

  • ช่วยให้เด็กมีความคิดอย่างมีเหตุผล (Logical Thinking)
  • ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็ก ๆ
  • สอนให้เด็กมีความอดทน มุ่งมานะเพื่อสิ่งที่ต้องการ
  • สอนให้เด็กรู้จักแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง
  • ช่วยเสริมสร้างทักษะการสื่อสาร
  • ช่วยเสริมสร้างทักษะทางคณิตศาสตร์ และยังทำให้การเรียนคณิตให้เด็ก ๆ กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น

บทความแนะนำ : เคล็ดลับอัพสกิลเลขได้ง่าย ๆ ฝึกได้จากโค้ดดิ้ง

แนวคิดพื้นฐานของโค้ดดิ้งที่เด็ก ๆ ควรรู้!

เชื่อหรือไม่!? ว่าในความเป็นจริงแล้วเด็ก 5 ขวบก็สามารถเริ่มต้นเรียนรู้โค้ดดิ้งได้แล้ว จะเห็นได้ว่าคุณพ่อคุณแม่ ไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกโต หรือพร้อมก่อนแล้วค่อยเริ่มเรียน เราสามารถเริ่มต้นปลูกฝังความเข้าใจพื้นฐานได้ตั้งแต่วันนี้ ในบทความนี้ก็ได้รวบรวมแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับโค้ดดิ้งที่เด็ก ๆ ควรรู้มาให้แล้ว ประกอบไปด้วย

  • อัลกอริทึม (Algorithm) ขั้นตอนหรือลำดับในการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน
  • การจัดลำดับ (Sequencing) การจัดลำดับขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง
  • การทำงานเป็นรอบ (Loops) การทำงานของโปรแกรมแบบวนซ้ำตามเงื่อนไขที่สร้างขึ้นมา
  • การแยกส่วนประกอบของปัญหา (Decomposition) เป็นแนวคิดพื้นฐานที่เป็นแนวคิดเชิงคำนวณ โดยนำมาใช้ในการแบ่งงานออกเป็นส่วนย่อย ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการแก้ไข และเป็นพื้นฐานสำคัญ ในการเขียนโปรแกรม
  • การแก้ไขจุดบกพร่อง (Debugging) การค้นหาและแก้ไขข้อผิดพลาดของโปรแกรม

บทความแนะนำ : สอนลูกให้คิดแบบอัลกอริทึม ฉบับเข้าใจง่าย ใช้ได้จริง

มือใหม่หัดโค้ดดิ้ง ควรเริ่มจากภาษาอะไรดี!?

ตามที่ได้กล่าวไปทั้งหมดข้างต้น “ภาษาคอมพิวเตอร์” ก็เป็นเหมือนการเรียนภาษาที่ 3 รองจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งภาษาคอมพิวเตอร์ก็มีหลากหลายภาษา ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ ภาษาคอมพิวเตอร์แต่ละภาษาก็จะมีความต่างกันอยู่ เปรียบเสมือนไวยกรณ์ในแต่ละภาษา ย่อมมีความต่างกันเป็นธรรมดาอยู่แล้วนั่นเอง ถ้าหากยิ่งฝึกฝนภาษานั้น ๆ มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งชำนาญมากขึ้นเท่านั้น

และคำถามที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนสงสัยว่า… ถ้าอยากให้ลูกเริ่มต้นเรียนโค้ดดิ้ง ควรเริ่มจากภาษาอะไรดี!? เราก็ขอแนะนำให้หนู ๆ ได้เริ่มต้นจาก “Block-Based Coding” เพราะเป็นภาษาที่เข้าใจได้ง่ายที่สุด หนู ๆ สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ 5 ขวบเป็นต้นไป โดย Block-based coding ที่กำลังเป็นที่นิยมมากสำหรับเด็ก ๆ นั่นก็คือ Scratch การเขียนโปรแกรมแบบบล็อกคำสั่ง ใช้งานง่ายและฟรี! เหมาะสำหรับน้อง ๆ มือใหม่สุด ๆ ไปเลย

Scratch

Scratch เป็น Block-Based Coding ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย MIT โดยในวัยเด็กนั้น สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่พื้นฐาน ให้เด็ก ๆ ได้ทดลองสร้างโปรเจ็คต์ง่าย ๆ จากแพลตฟอร์มนี้ก่อน เมื่อเด็ก ๆ สนุกกับการเขียนโค้ด ด้วยบล็อกไปสักพักจนเพียงพอ และอยากลุยโปรเจ็คต์ที่ท้าทายขึ้น หลังจากนั้น ค่อยให้เรียนรู้การเขียนโค้ดที่ยากขึ้นในขั้นต่อไป

Blockly

Blockly เป็น free และ open-source software โปรเจคจาก Google ให้น้อง ๆ ที่สนใจเขียนโปรแกรม สามารถเรียนรู้ได้ง่าย โดยสามารถเรียนโค้ดดิ้งได้ด้วยการต่อชิ้นส่วน Block คล้าย ๆ กับการต่อ Lego ทำให้สนุกและเข้าใจได้ง่ายขึ้น เหมาะกับการแนะนำให้เด็ก ได้รู้จักว่า coding คืออะไร? อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมี “Text-Based Coding” เป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนแอปพลิเคชั่น เกม หรือซอฟแวร์ต่าง ๆ ที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นมาอีกระดับ เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ฝึกฝนจาก Block-based coding จนคล่องแล้วจึงมาฝึกเขียนด้วย Text-based coding เพื่อนำไปใช้สร้างสรรค์นวัตกรรมสุดล้ำได้ โดยมีให้ให้เลือกด้วยกันหลายภาษา ไม่ว่าจะเป็น ภาษา C, Python, JavaScript, Ruby, C++, C#, Html เป็นต้น

บทความแนะนำ : สอนลูกให้เป็นโค้ดใน 5 ขั้นตอน

ไม่ว่าใครก็สามารถเรียนโค้ดดิ้งได้!

จากที่เราได้เล่ามาทั้งหมดเกี่ยวกับ “โค้ดดิ้ง” คุณพ่อคุณแม่ก็ได้เข้าใจว่า “coding คืออะไร?” และเห็นความสำคัญ ของการเรียนเขียนโค้ดสำหรับเด็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มจัดสรรชั่วโมงเขียนโค้ดให้กับลูก ๆ ได้ตั้งแต่วันนี้!  เพื่อให้พวกเขานำไปต่อยอดกลายเป็นนวัตกรรมสุดล้ำที่คุณอาจคาดไม่ถึง ใครจะไปรู้ว่า ในอนาคตลูกของคุณอาจจะกลายเป็น “นักสร้างระดับโลก” เลยก็เป็นได้