การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยผลักดันให้คน ๆ หนึ่ง สามารถเดินทางไปสู่เป้าหมาย แนวทางการประกอบอาชีพ หรือแม้แต่ชีวิตที่ตนเองคาดหวังจะเป็นได้ในอนาคต และถึงแม้ว่าการศึกษาจะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่น้อง ๆ นักเรียนนักศึกษาทุกคน ควรจะได้รับอย่างเท่าเทียม แต่ทว่า ยังมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอยู่มาก และสำหรับน้อง ๆ บางคน ที่อาจรู้สึกว่า จะดีกว่ามาก ถ้าตนเองได้มีทุนการศึกษา ที่จะมาช่วงแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองมากขึ้น จึงพยายามขวนขวายหาทางช่วยเหลือครอบครัวไปด้วย และได้รับการศึกษาตามที่ตนเองต้องการไปด้วย ซึ่ง “ทุนการศึกษา” อาจเป็นคำตอบและทางเลือกที่น่าสนใจ !
ดังนั้น หากน้อง ๆ กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือกำลังเรียนในมหาวิทยาลัย และกำลังมองหาทุนการศึกษาดี ๆ ที่สามารถช่วยต่อยอดการศึกษาของน้อง ๆ ให้พัฒนาไปได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ และยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวอีกด้วย วันนี้ Owlcampus ได้รวบรวมทุนการศึกษาสำหรับการเรียนต่อมัธยมศึกษาตอนปลายหรือระดับปริญญาตรีไว้แล้วที่นี่ ตอนจะแบ่งเป็น 2 ตอน สำหรับตอนแรก จะเป็น ทุนจากองค์กรชั้นนำในไทย และ ตอนถัดไป จะเป็น ทุนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในไทย ถ้าน้อง ๆ พร้อมที่จะทำความรู้จักทุนกันแล้ว ก็ไปลุยกันเลย !
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นกองทุนการศึกษาที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมจากนักศึกษาไทยมากมายทุนหนึ่ง จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ พ.ศ. 2538 เพื่อให้นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้กู้ยืมเงินเพื่อเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา และค่าครองชีพระหว่างการศึกษา โดยในปัจจุบัน กยศ. ได้มีการพัฒนาระบบการจัดการการให้กู้ยืมแบบดิจิทัล ผ่านระบบ DSL เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการยื่นสมัครกู้ยืมเงิน เพื่อให้นักเรียนหรือนักศึกษาเข้าถึงโอกาสทางการศึกษามากยิ่งขึ้น
คุณสมบัติทั่วไปของผู้กู้ยืม
- ลักษณะที่ 1 นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นผู้กู้ยืมที่มีรายได้ครอบครัวต่อปีไม่เกิน 360,000 บาท ให้กู้ยืมเงินเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และค่าครองชีพ ในระดับมัธยมปลาย ปวช. ปวท./ปวส. และอนุปริญญา/ปริญญาตรี โดยกำหนดชำระเงินคืนภายใน 15 ปี ระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปี ภายหลังสำเร็จการศึกษา อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี
- ลักษณะที่ 2 นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลัก สาขาวิชาที่ขาดแคลน หรือสาขาวิชาที่กองทุนมุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ ซึ่งมีความชัดเจนของการผลิตกำลังคนและมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ โดยมีสาขาวิชาตามแต่ละประเภททุน คือ ระดับปวท./ปวส. ได้แก่ ศิลปกรรม คหกรรม อุตสาหกรรม เกษตรกรรม ประมง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พาณิชยนาวี และวิทยาศาสตร์สุขภาพ และในระดับอนุปริญญา/ปริญญาตรี ได้แก่ สาขาวิชาสังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มนุษศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ / ศิลปกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ / วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี / เกษตรศาสตร์ / สาธารณสุขศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เภสัชศาสตร์ / แพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และสัตวแพทยศาสตร์
- ลักษณะที่ 3 นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาขาดแคลน หรือที่กองทุนมุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ ให้เงินกู้ยืมเงินเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา ระดับปวช. ปวท./ปวส. และอนุปริญญา/ปริญญาตรี โดยกำหนดชำระเงินคืนภายใน 15 ปี ระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปี ภายหลังสำเร็จการศึกษา อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี หากเป็นผู้ที่มีรายได้ครอบครัวต่อปีไม่เกิน 360,000 บาท จะสามารถกู้ยืมค่าครองชีพได้และได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.75% ต่อปี โดยมีสาขาวิชาตามแต่ละประเภททุน คือ ระดับปวท./ปวส. ได้แก่ สาขาวิชาศิลปกรรม และอุตสาหกรรมบันเทิงและดนตรี และในระดับอนุปริญญา/ปริญญาตรี ได้แก่ สังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มนุษศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ / ศิลปกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ / วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- ลักษณะที่ 4 นักเรียนหรือนักศึกษาที่เรียนดีเพื่อสร้างความเป็นเลิศ ให้กู้ยืมเงินเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา ระดับประกาศนียบัตรบัณทิตและปริญญาโท เพื่อสร้างความเป็นเลิศด้านการวิจัยและ สร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาประเทศไทย ผู้กู้ต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 โดยกำหนดชำระเงินคืนภายใน 10 ปี ระยะเวลาปลอดหนี้ 1 ปี ภายหลังสำเร็จการศึกษา อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี หากเป็นผู้ที่มีรายได้ครอบครัวต่อปีไม่เกิน 360,000 บาท จะสามารถกู้ยืมค่าครองชีพได้และได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.50% ต่อปี
ทั้งนี้ กยศ มีการพัฒนาระบบจัดการการให้กู้ยืมแบบดิจิทัล ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ในทุก ๆ กระบวนการกูยืมเงิน และดำเนินการให้ทุนตาม 4 ลักษณะที่กล่าวมา เพื่อให้ผู้กู้ยืมได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.studentloan.or.th
ทุนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.)
ทุนรัฐบาล หรือทุนจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) ได้มีทุนที่จะมอบให้ผู้มีความรู้ ความสามารถสูง ในสาขาวิชาและระดับการศึกษาที่อยู่ในความต้องการของทางราชการ โดยนักศึกษาที่ได้ทุนอาจได้ไปศึกษาต่อในต่างประเทศประเทศ เพื่อให้นำความรู้ที่ได้รับจากการศึกษามาพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ดังนั้น เงื่อนไขหลัก ๆ ของทุนรัฐบาล คือผู้ได้รับทุนจะต้องกลับมาปฏิบัติราชการในหน่วยงานเจ้าของทุนตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นั่นเอง ซึ่งทุนของสำนักงาน ก.พ. แบ่งออกเป็นทุนประเภทต่าง ๆ ดังนี้
ทุนเล่าเรียนหลวง ประจำปี 2565 (สำหรับผู้ที่กำลังศึกษามัธยมศึกษา)
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร
- ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564
- มีอายุไม่เกิน 20 ปี นับถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
- ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3.50 และเมื่อสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว จะต้องได้คะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย ไม่ต่ำกว่า 3.50
- ไม่สอบตกในวิชาหนึ่งวิชาใดตลอดหลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
- มีศีลธรรม และ ความประพฤติดี
- ไม่อยู่ในระหว่างการรับทุนที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุน หรือตอบแทนทุนใด ๆ ยกเว้น จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของทุนให้สมัครสอบได้และได้ส่งหนังสืออนุญาตดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ. ภายในวันสอบข้อเขียน
ทุนรัฐบาลทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำปี 2565 (สำหรับผู้ที่กำลังศึกษามัธยมศึกษา)
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร
- ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564
- มีอายุไม่เกิน 20 ปี นับถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
- ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3.50
- มีศีลธรรม และ ความประพฤติดี
- ไม่อยู่ในระหว่างการรับทุนที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุน หรือตอบแทนทุนใด ๆ ยกเว้น จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของทุนให้สมัครสอบได้และได้ส่งหนังสืออนุญาตดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ. ภายในวันสอบข้อเขียน
ทุนกระทรวงการต่างประเทศ ประจำปี 2565 (สำหรับผู้ที่กำลังศึกษามัธยมศึกษา)
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร
- ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564
- มีอายุไม่เกิน 20 ปี นับถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
- ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3.50
- มีศีลธรรม และความประพฤติดี
- ไม่อยู่ในระหว่างการรับทุนที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุน หรือตอบแทนทุนใด ๆ ยกเว้น จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของทุนให้สมัครสอบได้และได้ส่งหนังสืออนุญาตดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ. ภายในวันสอบข้อเขียน
ทุนวิวัฒนไชยานุสรณ์ ประจำปี 2565 (สำหรับผู้ที่กำลังศึกษามัธยมศึกษา)
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร
- ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564
- มีอายุไม่เกิน 20 ปี นับถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
- ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3.50
- ไม่สอบตกในวิชาหนึ่งวิชาใดตลอดหลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
- มีศีลธรรม และความประพฤติดี
- ไม่อยู่ในระหว่างการรับทุนที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุน หรือตอบแทนทุนใด ๆ ยกเว้น จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของทุนให้สมัครสอบได้และได้ส่งหนังสืออนุญาตดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ. ภายในวันสอบข้อเขียน
ทุนรัฐบาลตามความต้องการของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2564 (สำหรับผู้ที่กำลังศึกษามัธยมศึกษา)
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร
- ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564
- มีอายุไม่เกิน 20 ปี นับถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
- ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3.50
- มีศีลธรรม และความประพฤติดี
- ไม่อยู่ในระหว่างการรับทุนที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุน หรือตอบแทนทุนใด ๆ ยกเว้น จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของทุนให้สมัครสอบได้และได้ส่งหนังสืออนุญาตดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ. ภายในวันสอบข้อเขียน
ทุนบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ประจำปี 2565
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร
- ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564
- มีอายุไม่เกิน 20 ปี นับถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
- ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3.50
- มีศีลธรรม และความประพฤติดี
- ไม่อยู่ในระหว่างการรับทุนที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุน หรือตอบแทนทุนใด ๆ
การเปิดรับสมัคร
ทุนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) เปิดรับสมัครตั้งแต่ 11 ตุลาคม – 11 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา โดยผู้ประสงค์จะสมัครทุนในปีถัด ๆ ไป สามารถดูรายละเอียดทางเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. ที่
พร้อมทั้งสามารถพิมพ์แบบฟอร์มที่ใช้ในการสมัครสอบได้ในเว็บไซต์ดังกล่าวได้เลย ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ หน่วยละ 100 บาท และค่าธรรมเนียมธนาคารรวมค่าบริการทางอินเทอร์เน็ต จำนวน 30 บาท ซึ่งค่าธรรมเนียมเหล่านี้ จะไม่จ่ายคืนให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
ทุนสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยเพิ่มพูนศักยภาพทางวิทยาศาสตร์อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง จนสามารถก้าวเข้าสู่อาชีพนักวิทยาศาสตร์หรือนักวิจัยที่มีคุณภาพของประเทศได้อนาคต จึงได้ดำเนินโครงการทุนสำหรับเด็กและเยาวชนชั้นมัธยมศึกษาจนถึงระดับอุดมศึกษาตลอดมา สำหรับผู้ที่สนใจงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อได้รับโอกาสในการทำงานวิจัยร่วมกับนักวิจัยมืออาชีพ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ส่งเสริมการแสดงความสามารถ รวมถึงได้พัฒนาศักยภาพด้านการทำวิจัย และมีโอกาสในการสร้างผลงานโครงการต่าง ๆ ดังรายละเอียดทุนต่อไปนี้
ทุนระดับมัธยมฯ ถึงปริญญาเอก (JSTP)
โครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับเด็กและเยาวชน (Junior Science Talent Project: JSTP) คือ โครงการทุนสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาและนิสิต/นักศึกษาระดับอุดมศึกษา ที่สนใจทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และต้องการประกอบอาชีพนักวิทยาศาสตร์ นักเทคโนโลยี และนักวิจัย
ประเภทของทุน JSTP
- ระดับผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Gifted and Talented Children) ได้แก่ เด็กและเยาวชนไทย ในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา จำนวนปีละประมาณ 100 คน ซึ่งกลุ่มนี้จะอยู่ในกระบวนการส่งเสริมประสบการณ์และพัฒนาศักยภาพเป็นเวลาประมาณ 1 ปี เพื่อให้เข้าสู่อาชีพทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้มากที่สุด ซึ่งจะมีกิจกรรม ประกอบไปด้วย ค่ายวิทยาศาสตร์ โครงงานวิทยาศาสตร์ การให้คำแนะนำโดยพี่เลี้ยงที่เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยี
- ระดับผู้มีแววอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Genius) คัดเลือกจากกลุ่มแรกปีละประมาณ 10 คน เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากโครงการในระยะยาว ทั้งทุนการศึกษาและการวิจัยจนกว่าจะสำเร็จการศึกษาถึงระดับปริญญาเอก ซึ่งจะมีกิจกรรม เช่น การฝึกอบรมระยะสั้นเพื่อฝึกทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ การประชุมสัมมนาทั้งในและต่างประเทศ การอบรมด้านภาษา และคอมพิวเตอร์ เป็นต้น โดยมีพี่เลี้ยงที่เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีคอยดูแลและให้คำปรึกษา
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร
- นักเรียนระดับมัธยมศึกษา นิสิต/นักศึกษาระดับอุดมศึกษา ที่มีความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน คณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ประยุกต์ วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์คอมพิวเตอร์
- ผู้ที่ได้รับทุนจากโครงการส่งเสริมและพัฒนาวิทยาศาสตร์อื่น ๆ เช่น โครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษ ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (โครงการ พสวท.) โครงการจัดส่งผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โอลิมปิกระหว่างประเทศโอลิมปิกวิชาการ โครงการชนะเลิศการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ โครงการช้างเผือกปูนชีเมนต์ เป็นต้น โดยจะได้รับสิทธิ์เพิ่มเติมจากทุนที่ได้รับอยู่แล้ว
- ผู้ที่มีความสนใจและมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานวิจัยร่วมกับนักวิทยาศาสตร์พี่เลี้ยงในระหว่างที่ศึกษาอยู่ในหลักสูตรของสถาบันตนเองได้
กำหนดการของกิจกรรมโครงการ
- เปิดสมัคร : เดือนตุลาคม – เดือนธันวาคม ของทุกปี
- คัดเลือกจากใบสมัคร : เดือนมกราคม ปีถัดไป
- สอบสัมภาษณ์ : เดือนกุมภาพันธ์ ปีถัดไป
- ประกาศผลการคัดเลือก : เดือนมีนาคม ปีถัดไป
- เข้าร่วมกิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์ : พฤษภาคม/ตุลาคม/เมษายน ของปีถัดไป
- ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ : มิถุนายน – กุมภาพันธ์ ของปีถัดไป
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.nstda.or.th/th/scholarship-in-nstda
ทุนสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เปิดรับสมัครและคัดเลือกผู้สมัครชาวไทยเป็นประจำทุกปี เพื่อรับทุนการศึกษาของรัฐบาลญี่ปุ่นไปศึกษาที่สถาบันการศึกษาญี่ปุ่น โดยมีประเภททุนที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้
ทุนนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิค (College of Technology Students)
ทุนนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิค (College of Technology Students) เป็นทุนที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการไทย คัดเลือกนักเรียนไทยเพื่อไปศึกษาในวิทยาลัยเทคนิคที่ญี่ปุ่นเป็นประจำทุกปี ระยะเวลารับทุนการศึกษา 4 ปี (รวมระยะเวลาศึกษาภาษาญี่ปุ่น 1 ปี)
คุณสมบัติผู้รับทุน
- ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย
- อายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 25 ปี
- เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือปวช.ชั้นปี 3 และจะจบการศึกษาในเดือนมีนาคมของปีที่เริ่มรับทุนการศึกษา
กำหนดการรับสมัครทุน
ทุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students)
ทุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) เป็นทุนที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย คัดเลือกนักเรียนไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นเป็นประจำทุกปี ระยะเวลารับทุนการศึกษา 5 ปี หรือ 7 ปี ขึ้นอยู่กับสาขาวิชา (รวมระยะเวลาศึกษาภาษาญี่ปุ่น 1 ปี)
คุณสมบัติผู้รับทุน
- ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย อายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 25 ปี
- สำเร็จหรือกำลังจะสำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และจบการศึกษาในเดือนมีนาคม ของปีที่เริ่มรับทุนการศึกษา
กำหนดการรับสมัครทุน
ทุนญี่ปุ่นศึกษา (Japanese Studies Students)
ทุนญี่ปุ่นศึกษา (Japanese Studies Students) เป็นทุนที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยคัดเลือกนักศึกษาไทยเพื่อไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มพูนทักษะความรู้ภาษาญี่ปุ่น ศึกษาวัฒนธรรมและสภาพสังคมญี่ปุ่น เป็นประจำทุกปี ระยะเวลารับทุนการศึกษา 1 ปีการศึกษา
คุณสมบัติผู้รับทุน
- ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 30 ปี
- กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 หรือ 3 และศึกษาภาษาญี่ปุ่นเป็นวิชาเอกในระดับปริญญาตรี
กำหนดการรับสมัครทุน
ทุนนักศึกษาฝึกอบรมวิชาชีพ (Specialized Training College Students)
ทุนนักศึกษาฝึกอบรมวิชาชีพ (Specialized Training College Students) เป็นทุนที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการไทย คัดเลือกนักเรียนไทยเพื่อไปศึกษาในสถาบันอาชีวะศึกษาที่ญี่ปุ่นเป็นประจำทุกปี ระยะเวลารับทุนการศึกษา 3 ปี (รวมระยะเวลาศึกษาภาษาญี่ปุ่น 1 ปี)
คุณสมบัติผู้รับทุน
- ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย อายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 25 ปี
- เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือปวช.ชั้นปี 3 และจะจบการศึกษาในเดือนมีนาคมของปีที่เริ่มรับทุนการศึกษา
กำหนดการรับสมัครทุน
เปิดรับสมัครโดยสำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สำนักงานปลัด กระทรวงศึกษาธิการไทย ประมาณต้นเดือนมิถุนายนของทุกปี และเริ่มรับทุนตั้งแต่เดือนเมษายนของปีถัดไป
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.th.emb-japan.go.jp
ทุนรัฐบาลเกาหลี GKS ระดับปริญญาตรี ประจำปี 2565
ทุนรัฐบาลเกาหลี GKS ระดับปริญญาตรี ประจำปี 2565 สำหรับการสมัครผ่านสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย เพื่อให้นักเรียนที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีความสามารถสามารถสานต่อความฝันในมหาวิทยาลัยเกาหลีได้ โดยรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีจะสนับสนุนค่าเทอม ค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายประจำวัน เป็นต้น
คุณสมบัติผู้รับทุน
- ผู้มีผลคะแนน TOPIK ระดับ 3 ขึ้นไป หรือ
- ลูกหลานทหารผ่านศึกสงครามเกาหลี
วิธีการสมัคร
ผู้ที่มีความประสงค์สมัคร สามารถส่งเอกสารสมัครไปที่ Embassy of the Republic of Korea, Korean Education Center (KEC) 23 Thiam-Ruammit Road, Ratchadapisek, Huay-Kwang, Bangkok 10310 Thailand โทร +66-2-115-1027
เอกสารทั้งหมดต้องส่งแบบลงทะเบียนมีเลขพัสดุที่สามารถตรวจสอบได้ และ ไม่สามารถนำมาส่งได้ด้วยตนเองหรือส่งผ่านบริการแมสเซนเจอร์ และโปรดระบุหน้าซองเอกสาร “For GKS” และกรอกแบบฟอร์มยืนยันการส่งเอกสารทางออนไลน์ ได้ที่ https://bit.ly/2Xq9ZG6
กำหนดการรับสมัครทุน
สามารถยื่นเอกสารการสมัครในช่วงเดือนกันยายน ถึง ตุลาคมของทุกปี
สอบสัมภาษณ์และประกาศผลในเดือนตุลาคมเช่นเดียวกัน ผ่านทาง Korean Education Center in Thailand
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ overseas.mofa.go.kr และ facebook.com/kecbkk
ทุนรัฐบาลรัสเซียสำหรับนักศึกษาไทย สำหรับปี 2565-2566
ทุนรัฐบาลรัสเซียสำหรับนักศึกษาไทย ที่มีความประสงค์ในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในประเทศรัสเซีย ทุนการศึกษาสำหรับปี 2565-2566
คุณสมบัติผู้รับทุน
วิธีการสมัคร
ผู้สมัครควรลงทะเบียนและสร้างบัญชีของตัวเองบนเว็บไซต์ education-in-russia.com จากนั้นให้ส่งใบสมัครโดยกรอกเอกสารพร้อมแนบสำเนาเอกสารที่จำเป็น เช่น หนังสือเดินทาง ประกาศนียบัตรระดับมัธยมปลายหรือใบปริญญาบัตร
สำหรับผู้ที่กำลังศึกษาในปีสุดท้ายของระดับการศึกษาให้เตรียมเอกสารใบสมัคร ใบแสดงผลการศึกษารายวิชาพร้อมวันที่คาดว่าจะสำเร็จการศึกษาภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ทั้งนี้ เอกสารของผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกจะถูกส่งไปยังกระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์แห่งสหพันธรัฐรัสเซียเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการคัดเลือกต่อไป ผู้สมัครที่ได้รับทุนการศึกษาจะได้รับแจ้งต่อไป
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โดยการส่งอีเมลไปที่ russianembassybkk@gmail.com หรือศึกษาผ่านเว็บไซต์ ทุนรัฐบาลรัสเซียสำหรับนักศึกษาไทย ที่มีความประสงค์ในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในประเทศรัสเซีย ทุนการศึกษาสำหรับปี 2565-2566
ทุนมูลนิธิจรูญเอื้อชูเกียรติ
ทุนการศึกษาของมูลนิธิจรูญเอื้อชูเกียรติ ให้ครอบคลุมการศึกษาสายสามัญในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายถึงอุดมศึกษา (ปริญญาตรี) และการศึกษาสายวิชาชีพ ได้แก่ระดับ ปวช. และ ปวส. ซึ่งทุนนี้ไม่มีเงื่อนไขการใช้ทุนคืนใด ๆ ทั้งสิ้น
คุณสมบัติทั่วไปของผู้รับทุน
- ผู้รับทุนเป็นผู้มีภูมิลำเนาอยู่นอกกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- ผู้รับทุนมีผลการเรียนดีตามเกณฑ์ที่มูลนิธิฯ กำหนด
- สถาบันที่ผู้รับทุนต้องการเข้าศึกษาเป็นสถาบันของรัฐ
ทุนการศึกษาระดับมัธยมศึกษา
คุณสมบัติผู้รับทุน
- เป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6
- ผลการเรียนไม่ต่ำกว่า 3.0
- เรียนดีและมีความประพฤติดี
- ครอบครัวมีความจำเป็นและสมควรได้รับความช่วยเหลือ
- มีศักยภาพและความตั้งใจที่จะศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
- ไม่เป็นผู้รับทุนการศึกษาจากที่อื่นอยู่แล้ว
ระยะเวลาการให้ทุน
นักเรียนที่ได้รับทุนช่วยเหลือการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากมูลนิธิ จะได้รับทุนดังกล่าวต่อเนื่องทุกปี จนกว่าจะสิ้นสุดลงหรือถูกยกเลิกในกรณี ดังต่อไปนี้
- ผู้รับทุนจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนที่รับทุน หรือ
- ผู้รับทุนลาออกจากโรงเรียนที่รับทุน หรือ
- ผู้รับทุนมีผลการเรียนในภาคการศึกษาต่ำกว่า 2.0 หรือ
- ผู้รับทุนไม่ได้ส่งจดหมายรายงานไปยังมูลนิธิฯ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- ผู้รับทุนไม่รายงานเมื่อมูลนิธิถามมา
- เหตุอื่น ๆ ซึ่งมูลนิธิ เห็นว่าทำให้ผู้รับทุนขาดคุณสมบัติ
ขั้นตอนการขอรับทุน
- มูลนิธิจะแจ้งจำนวนทุนสำหรับนักเรียนรับทุนใหม่ในแต่ละปีการศึกษาให้โรงเรียนทราบ
- โรงเรียนคัดเลือกนักเรียนที่มีคุณสมบัติตามที่ระบุข้างต้นและเห็นสมควรได้รับทุน
- นักเรียนผู้สมัครกรอกข้อมูลในเอกสารขอรับทุนของมูลนิธิ อย่างครบถ้วนและให้ทางโรงเรียนจัดส่งให้มูลนิธิ ภายในเดือนกุมภาพันธ์
- มูลนิธิจะแจ้งผลการพิจารณาการขอทุนให้โรงเรียนทราบภายในเดือนมีนาคม
ทุนการศึกษาวิชาชีพ (ระดับ ปวช.)
คุณสมบัติผู้รับทุน
- เป็นนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3
- เรียนดีและมีความประพฤติดี มีความรับผิดชอบ
- ผลการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นไม่เคยต่ำกว่า 2.0 และเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.5
- มีหลักฐานยืนยันการรับเข้าเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาหรือโรงเรียนวิชาชีพอื่นๆ ของหน่วยราชการหรือรัฐวิสาหกิจ (ยกเว้นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล) ซึ่งมีหลักสูตรการศึกษาที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นโรงเรียนที่ได้รับความเห็นชอบจากมูลนิธิฯ
- มีความตั้งใจที่จะประกอบอาชีพในแขนงวิชาที่เรียน
ระยะเวลาการให้ทุน
ตามระยะเวลาของหลักสูตรการเรียน ทั้งนี้ไม่เกิน 3 ปี โดยมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- นักเรียนไม่เลิกเรียนหรือถูกให้ออกจากสถาบัน
- นักเรียนต้องมีผลการเรียนในแต่ละภาคการศึกษาไม่ต่ำกว่า 2.0
- มูลนิธิต้องได้รับใบรับทุน พร้อมทั้งหลักฐานการชำระเงินให้แก่สถาบันการศึกษา ตามเวลาที่กำหนด
- มูลนิธิต้องได้รับผลการศึกษาตามเวลาที่กำหนด
- มูลนิธิต้องได้รับรายงานประจำปีตามเวลาที่กำหนด
- มูลนิธิต้องได้รับรายงานตามที่ขอไป
- ต้องไม่มีเหตุอื่นซึ่งมูลนิธิ เห็นว่าทำให้นักเรียนขาดคุณสมบัติ
ขั้นตอนการขอรับทุน
มูลนิธิจรูญเอื้อชูเกียรติเปิดรับสมัครขอทุนการศึกษา ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์ ของทุกปี และจะแจ้งผลให้ทราบภายในเดือนมีนาคม โดยมีขั้นตอนการสมัครขอรับทุน ดังนี้
- นักเรียนดาวน์โหลดใบสมัครขอรับทุนการศึกษาระดับ ปวช. ในเว็บไซต์ของมูลนิธิหรือขอใบสมัครทางไปรษณีย์
- นักเรียนกรอกใบสมัครรับทุนการศึกษาระดับ ปวช. อย่างครบถ้วน พร้อมเอกสารประกอบ ได้แก่
1) เอกสารแจ้งผลการเรียนอย่างเป็นทางการ (มัธยมศึกษาปีที่ 1-3)
2) จดหมายแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษา หรืออาจารย์แนะแนว
ทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษา
คุณสมบัติผู้รับทุน
- เรียนดีและมีความประพฤติดี มีความรับผิดชอบ
- ผลการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือผลการเรียน 3 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.0
- สอบเข้าศึกษาในภาควิชาที่ตั้งใจในมหาวิทยาลัยของรัฐ
- มีความตั้งใจที่จะประกอบอาชีพตามภาควิชาที่เรียน
- มีจิตสำนึกในการพัฒนาตนเองและสังคม
- ไม่เคยได้รับปริญญาอื่น
- ไม่ได้รับทุนการศึกษาอื่น (ทุน กยศ. ถือเป็นเงินกู้ ไม่นับเป็นทุนการศึกษา)
- นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยของรัฐ
ระยะเวลาการให้ทุน
ตามระยะเวลาของหลักสูตรปริญญาตรี การให้ทุนจะถูกยกเลิกในกรณี ดังนี้
- นักศึกษาเลิกเรียนหรือถูกให้ออกจากสถาบัน หรือ
- มูลนิธิไม่ได้รับจดหมาย หรือรายงานผลการศึกษา หรือ
- นักศึกษามีผลการเรียนต่ำกว่า 2.0 ในภาคใดภาคหนึ่ง (ทุนจะถูกยกเลิกในภาคการศึกษาต่อไป)
- เหตุอื่นซึ่งมูลนิธิเห็นว่าทำให้นักศึกษาขาดคุณสมบัติ
ขั้นตอนการขอรับทุน
มูลนิธิจรูญเอื้อชูเกียรติเปิดรับสมัครขอทุนการศึกษา ในช่วงเดือนธันวาคม ถึง มีนาคม ของทุกปี ดังขั้นตอนต่อไปนี้
- นักเรียน/นักศึกษาดาวน์โหลดใบสมัครขอรับทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษาในเว็บไซต์ของมูลนิธิหรือขอใบสมัครทางไปรษณีย์
- นักเรียน/นักศึกษากรอกใบสมัครรับทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษาอย่างครบถ้วน พร้อมเอกสารประกอบ ได้แก่
1) เอกสารแจ้งผลการศึกษาอย่างเป็นทางการ (มัธยมศึกษาปีที่ 4-6) หรือผลการศึกษา 3 ปีที่ผ่านมา
2) จดหมายแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษา หรืออาจารย์แนะแนว
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cefoundation.or.th
มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา (EDF)
มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา (EDF) มุ่งหวังที่จะต่ออายุการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนยากจนในชนบทห่างไกล ให้ได้มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียน ด้วยการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มูลนิธิจึงสามารถส่งต่อความช่วยเหลือเหล่านี้ ในรูปของทุนการศึกษา มากกว่า 5,600 โรงเรียน ใน 61 จังหวัดทั่วประเทศ
ทุนการศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4 – ม.6) และอาชีวศึกษา
โครงการทุนการศึกษาสำหรับเด็กนักเรียนเรียนดีในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4 – ม.6) และอาชีวศึกษา เพื่อที่จะสามารถต่อยอดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา หรือนำความรู้ทางวิชาชีพที่ได้เรียนเพื่อนำไปประกอบอาชีพช่วยเหลือตนเองและครอบครัวต่อไป โดยทุนจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปโรงเรียน หรือวิทยาลัยที่อยู่ในตัวอำเภอ รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านการเรียนอื่น ๆ ที่นโยบายของรัฐยังไม่ครอบคลุมอีกด้วย
คุณสมบัติผู้รับทุน
- นักเรียนที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมีความประสงค์จะศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6) หรืออาชีวศึกษา (ปวช.) หรือกำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรืออาชีวศึกษา แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการศึกษาต่อ
- มีความประพฤติดี และมีผลการเรียนดี โดยมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.75
- ไม่เป็นบุตรข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานท้องถิ่นของรัฐ หรือลูกจ้างประจำ
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.edfthai.org
ทุนมูลนิธิทางสู่ฝัน ปั้นคนเก่ง
มูลนิธิทางสู่ฝัน ปั้นคนเก่ง เปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษาตามหลักเกณฑ์ที่มูลนิธิกำหนด ซึ่งมีมหาวิทยาลัยที่ได้รับพิจารณาจัดสรรทุนการศึกษา ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาเขตรังสิต, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน และมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา ซึ่งมีสาขาวิชาที่กำหนดไว้ให้ได้รับทุน คือ แพทยศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์, นิติศาสตร์, วิทยาศาสตร์ และคอมพิวเตอร์, รัฐศาสตร์, เกษตรศาสตร์, ครุศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ได้รับทุน
- สัญชาติไทย และมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย
- อายุไม่เกิน 21 ปีบริบูรณ์
- เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญหรือสายอาชีพ
- สามารถสอบผ่านเข้ามหาวิทยาลัยและคณะตามที่มูลนิธิกำหนด (เฉพาะภาคปกติ)
- เป็นผู้ด้อยโอกาสเนื่องจากครอบครัวยากจน หรือกำพร้า โดยผู้อุปการะมีฐานะยากจน มีรายได้รวมต่ำกว่า 180,000 บาทต่อปี หรืออยู่ในความดูแลอุปถัมภ์ของสถานสงเคราะห์หรือมูลนิธิต่าง ๆ
- เป็นผูมีความประพฤติดี และอยู่ในระเบียบวินัย
กำหนดการเปิดรับสมัคร
เปิดรับสมัครในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึง กรกฎาคม ของทุกปี ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.daf.or.th/download-pr

สำหรับน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษาคนไหนที่สนใจสมัครทุนการศึกษาจากองค์กรชั้นนำในไทยดังที่ Owlcampus ได้รวบรวมไว้ข้างต้น สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปิดรับสมัครได้ตามเว็บไซต์ของหน่วยงานนั้น ๆ ได้เลย เพื่อไม่ให้พลาดในทุก ๆ โอกาสทุนที่มีในไทยนั่นเอง และทุนการศึกษาสำหรับการเรียนต่อมัธยมศึกษาตอนปลายหรือระดับปริญญาตรี ในตอนหน้า จะเป็นทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในไทย สามารถรอติดตามสาระดี ๆ จาก พี่ ๆ Owlcampus ในตอนต่อไปได้เลย !