การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยผลักดันให้คน ๆ หนึ่ง สามารถเดินทางไปสู่เป้าหมาย แนวทางการประกอบอาชีพ หรือแม้แต่ชีวิตที่ตนเองคาดหวังจะเป็นได้ในอนาคต และถึงแม้ว่าการศึกษาจะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่น้อง ๆ นักเรียนนักศึกษาทุกคน ควรจะได้รับอย่างเท่าเทียม แต่ทว่า ยังมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอยู่มาก และสำหรับน้อง ๆ บางคน ที่อาจรู้สึกว่า จะดีกว่ามาก ถ้าตนเองได้มีทุนการศึกษา ที่จะมาช่วงแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองมากขึ้น จึงพยายามขวนขวายหาทางช่วยเหลือครอบครัวไปด้วย และได้รับการศึกษาตามที่ตนเองต้องการไปด้วย ซึ่ง “ทุนการศึกษา” อาจเป็นคำตอบและทางเลือกที่น่าสนใจ !

ดังนั้น หากน้อง ๆ กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือกำลังเรียนในมหาวิทยาลัย และกำลังมองหาทุนการศึกษาดี ๆ ที่สามารถช่วยต่อยอดการศึกษาของน้อง ๆ ให้พัฒนาไปได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ และยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวอีกด้วย วันนี้ Owlcampus ได้รวบรวมทุนการศึกษาสำหรับการเรียนต่อมัธยมศึกษาตอนปลายหรือระดับปริญญาตรีไว้แล้วที่นี่ ตอนจะแบ่งเป็น 2 ตอน สำหรับตอนแรก จะเป็น ทุนจากองค์กรชั้นนำในไทย และ ตอนถัดไป จะเป็น ทุนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในไทย ถ้าน้อง ๆ พร้อมที่จะทำความรู้จักทุนกันแล้ว ก็ไปลุยกันเลย !

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นกองทุนการศึกษาที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมจากนักศึกษาไทยมากมายทุนหนึ่ง จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ พ.ศ. 2538 เพื่อให้นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้กู้ยืมเงินเพื่อเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา และค่าครองชีพระหว่างการศึกษา โดยในปัจจุบัน กยศ. ได้มีการพัฒนาระบบการจัดการการให้กู้ยืมแบบดิจิทัล ผ่านระบบ DSL เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการยื่นสมัครกู้ยืมเงิน เพื่อให้นักเรียนหรือนักศึกษาเข้าถึงโอกาสทางการศึกษามากยิ่งขึ้น

คุณสมบัติทั่วไปของผู้กู้ยืม

ในปีการศึกษา 2564 กยศ. ให้กู้ยืม 4 ลักษณะ เพื่อช่วยลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และเพื่อส่งเสริมให้เรียนสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลัก ดังนี้
  • ลักษณะที่ 1 นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นผู้กู้ยืมที่มีรายได้ครอบครัวต่อปีไม่เกิน 360,000 บาท ให้กู้ยืมเงินเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และค่าครองชีพ ในระดับมัธยมปลาย ปวช. ปวท./ปวส. และอนุปริญญา/ปริญญาตรี โดยกำหนดชำระเงินคืนภายใน 15 ปี ระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปี ภายหลังสำเร็จการศึกษา อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี
  • ลักษณะที่ 2 นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลัก สาขาวิชาที่ขาดแคลน หรือสาขาวิชาที่กองทุนมุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ ซึ่งมีความชัดเจนของการผลิตกำลังคนและมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ โดยมีสาขาวิชาตามแต่ละประเภททุน คือ ระดับปวท./ปวส. ได้แก่ ศิลปกรรม คหกรรม อุตสาหกรรม เกษตรกรรม ประมง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พาณิชยนาวี และวิทยาศาสตร์สุขภาพ และในระดับอนุปริญญา/ปริญญาตรี ได้แก่ สาขาวิชาสังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มนุษศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ / ศิลปกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ / วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี / เกษตรศาสตร์ / สาธารณสุขศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เภสัชศาสตร์ / แพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และสัตวแพทยศาสตร์
  • ลักษณะที่ 3 นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาขาดแคลน หรือที่กองทุนมุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ ให้เงินกู้ยืมเงินเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา ระดับปวช. ปวท./ปวส. และอนุปริญญา/ปริญญาตรี โดยกำหนดชำระเงินคืนภายใน 15 ปี ระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปี ภายหลังสำเร็จการศึกษา อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี หากเป็นผู้ที่มีรายได้ครอบครัวต่อปีไม่เกิน 360,000 บาท จะสามารถกู้ยืมค่าครองชีพได้และได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.75% ต่อปี โดยมีสาขาวิชาตามแต่ละประเภททุน คือ ระดับปวท./ปวส. ได้แก่ สาขาวิชาศิลปกรรม และอุตสาหกรรมบันเทิงและดนตรี และในระดับอนุปริญญา/ปริญญาตรี ได้แก่ สังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มนุษศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ / ศิลปกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ / วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ลักษณะที่ 4 นักเรียนหรือนักศึกษาที่เรียนดีเพื่อสร้างความเป็นเลิศ ให้กู้ยืมเงินเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา ระดับประกาศนียบัตรบัณทิตและปริญญาโท เพื่อสร้างความเป็นเลิศด้านการวิจัยและ สร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาประเทศไทย ผู้กู้ต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 โดยกำหนดชำระเงินคืนภายใน 10 ปี ระยะเวลาปลอดหนี้ 1 ปี ภายหลังสำเร็จการศึกษา อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี หากเป็นผู้ที่มีรายได้ครอบครัวต่อปีไม่เกิน 360,000 บาท จะสามารถกู้ยืมค่าครองชีพได้และได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.50% ต่อปี

ทั้งนี้ กยศ มีการพัฒนาระบบจัดการการให้กู้ยืมแบบดิจิทัล ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ในทุก ๆ กระบวนการกูยืมเงิน และดำเนินการให้ทุนตาม 4 ลักษณะที่กล่าวมา เพื่อให้ผู้กู้ยืมได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.studentloan.or.th


ทุนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.)

ทุนรัฐบาล หรือทุนจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) ได้มีทุนที่จะมอบให้ผู้มีความรู้ ความสามารถสูง ในสาขาวิชาและระดับการศึกษาที่อยู่ในความต้องการของทางราชการ โดยนักศึกษาที่ได้ทุนอาจได้ไปศึกษาต่อในต่างประเทศประเทศ เพื่อให้นำความรู้ที่ได้รับจากการศึกษามาพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ดังนั้น เงื่อนไขหลัก ๆ ของทุนรัฐบาล คือผู้ได้รับทุนจะต้องกลับมาปฏิบัติราชการในหน่วยงานเจ้าของทุนตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นั่นเอง ซึ่งทุนของสำนักงาน ก.พ. แบ่งออกเป็นทุนประเภทต่าง ๆ ดังนี้

ทุนเล่าเรียนหลวง ประจำปี 2565 (สำหรับผู้ที่กำลังศึกษามัธยมศึกษา)

ทุนเล่าเรียนหลวงพระราชทานแก่นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งมีผลการเรียนยอดเยี่ยม จำนวน 3 หน่วย รวม 9 ทุน ผู้ได้รับทุนจะต้องไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ โดยจะเลือกเรียนวิชาใด และมหาวิทยาลัยใดก็ได้ ซึ่ง ก.พ. จะเป็นผู้พิจารณาคุณลักษณะต่อไป ทั้งนี้เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว จะต้องกลับมาปฏิบัติงานในไทย หากไม่กลับมา จะต้องชดใช้เงินคืนเท่ากับจำนวนเงินทุนที่ได้รับไป

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร

  1. ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564
  2. มีอายุไม่เกิน 20 ปี นับถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
  3. ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3.50 และเมื่อสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว จะต้องได้คะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย ไม่ต่ำกว่า 3.50 
  4. ไม่สอบตกในวิชาหนึ่งวิชาใดตลอดหลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
  5. มีศีลธรรม และ ความประพฤติดี
  6. ไม่อยู่ในระหว่างการรับทุนที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุน หรือตอบแทนทุนใด ๆ ยกเว้น จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของทุนให้สมัครสอบได้และได้ส่งหนังสืออนุญาตดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ. ภายในวันสอบข้อเขียน

ทุนรัฐบาลทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำปี 2565 (สำหรับผู้ที่กำลังศึกษามัธยมศึกษา)

ทุนรัฐบาลทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีเปิดรับทั้งสิ้น 28 ทุน สำหรับ 28 หน่วย ซึ่งผู้ที่ได้รับทุนจะต้องกลับมาปฏิบัติราชการหรือปฏิบัติงานของทางราชการ สังกัด กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน ถ้าไม่เข้าปฏิบัติราชการเพื่อชดใช้ทุนตามสัญญา จะต้องชดใช้เงินทุนที่ได้รับไปและชดใช้เงินเบี้ยปรับอีก 2 เท่า ของจำนวนเงินทุนดังกล่าว

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร

  1. ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564
  2. มีอายุไม่เกิน 20 ปี นับถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
  3. ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3.50
  4. มีศีลธรรม และ ความประพฤติดี
  5. ไม่อยู่ในระหว่างการรับทุนที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุน หรือตอบแทนทุนใด ๆ ยกเว้น จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของทุนให้สมัครสอบได้และได้ส่งหนังสืออนุญาตดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ. ภายในวันสอบข้อเขียน

ทุนกระทรวงการต่างประเทศ ประจำปี 2565 (สำหรับผู้ที่กำลังศึกษามัธยมศึกษา)

ทุนกระทรวงการต่างประเทศ จำนวน 5 หน่วย รวม 5 ทุน ผู้ที่ได้รับทุนจะต้องกลับมาปฏิบัติราชการหรือปฏิบัติงานที่กระทรวงการต่างประเทศ กำหนดเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน ถ้าไม่เข้าปฏิบัติราชการเพื่อชดใช้ทุนตามสัญญา จะต้องชดใช้เงินทุนที่ได้รับไปและชดใช้เงินเบี้ยปรับอีก 2 เท่า ของจำนวนเงินทุนดังกล่าว

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร

  1. ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564
  2. มีอายุไม่เกิน 20 ปี นับถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
  3. ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3.50
  4. มีศีลธรรม และความประพฤติดี
  5. ไม่อยู่ในระหว่างการรับทุนที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุน หรือตอบแทนทุนใด ๆ ยกเว้น จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของทุนให้สมัครสอบได้และได้ส่งหนังสืออนุญาตดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ. ภายในวันสอบข้อเขียน

ทุนวิวัฒนไชยานุสรณ์ ประจำปี 2565 (สำหรับผู้ที่กำลังศึกษามัธยมศึกษา)

ทุนวิวัฒนไชยานุสรณ์ เป็นทุนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมมือกับสำนักงาน ก.พ. ให้ดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อรับทุน โดยมีทุนที่รับสมัครสอบ จำนวน 2 หน่วย รวม 2 ทุน ผู้ได้รับทุนจะต้องกลับมาปฏิบัติงานกับธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน ถ้าไม่เข้าปฏิบัติราชการเพื่อชดใช้ทุนตามสัญญา จะต้องชดใช้เงินทุนที่ได้รับไปและชดใช้เงินเบี้ยปรับอีก 1 เท่า ของจำนวนเงินทุนดังกล่าวอีกด้วย

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร

  1. ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564
  2. มีอายุไม่เกิน 20 ปี นับถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
  3. ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3.50
  4. ไม่สอบตกในวิชาหนึ่งวิชาใดตลอดหลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
  5. มีศีลธรรม และความประพฤติดี
  6. ไม่อยู่ในระหว่างการรับทุนที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุน หรือตอบแทนทุนใด ๆ ยกเว้น จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของทุนให้สมัครสอบได้และได้ส่งหนังสืออนุญาตดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ. ภายในวันสอบข้อเขียน

ทุนรัฐบาลตามความต้องการของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2564 (สำหรับผู้ที่กำลังศึกษามัธยมศึกษา)

สำนักงาน ก.พ. จะดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อรับทุนรัฐบาลตามความต้องการของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ทุนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) ทุนที่รับสมัครสอบ จำนวน 2 หน่วย รวม 2 ทุน ผู้ได้รับทุนจะต้องกลับมาปฏิบัติราชการหรือปฏิบัติงานที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้กำหนด เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน ถ้าไม่เข้าปฏิบัติราชการเพื่อชดใช้ทุนตามสัญญา จะต้องชดใช้เงินทุนที่ได้รับไปและชดใช้เงินเบี้ยปรับอีก 1 เท่า ของจำนวนเงินทุนดังกล่าวอีกด้วย

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร

  1. ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564
  2. มีอายุไม่เกิน 20 ปี นับถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
  3. ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3.50
  4. มีศีลธรรม และความประพฤติดี
  5. ไม่อยู่ในระหว่างการรับทุนที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุน หรือตอบแทนทุนใด ๆ ยกเว้น จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของทุนให้สมัครสอบได้และได้ส่งหนังสืออนุญาตดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ. ภายในวันสอบข้อเขียน

ทุนบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ประจำปี 2565

บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับสำนักงาน ก.พ. ให้ดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อรับทุน โดยมีทุนที่รับสมัครสอบ จำนวน 2 หน่วย รวม 2 ทุน ผู้ได้รับทุนจะต้องกลับมาปฏิบัติงานกับบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน ถ้าไม่เข้าปฏิบัติราชการเพื่อชดใช้ทุนตามสัญญา จะต้องชดใช้เงินทุนที่ได้รับไปและชดใช้เงินเบี้ยปรับอีก 2 เท่า ของจำนวนเงินทุนดังกล่าวอีกด้วย

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร

  1. ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564
  2. มีอายุไม่เกิน 20 ปี นับถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
  3. ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3.50
  4. มีศีลธรรม และความประพฤติดี
  5. ไม่อยู่ในระหว่างการรับทุนที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุน หรือตอบแทนทุนใด ๆ

การเปิดรับสมัคร

ทุนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) เปิดรับสมัครตั้งแต่ 11 ตุลาคม – 11 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา โดยผู้ประสงค์จะสมัครทุนในปีถัด ๆ ไป สามารถดูรายละเอียดทางเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. ที่

พร้อมทั้งสามารถพิมพ์แบบฟอร์มที่ใช้ในการสมัครสอบได้ในเว็บไซต์ดังกล่าวได้เลย ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ หน่วยละ 100 บาท และค่าธรรมเนียมธนาคารรวมค่าบริการทางอินเทอร์เน็ต จำนวน 30 บาท ซึ่งค่าธรรมเนียมเหล่านี้ จะไม่จ่ายคืนให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น


ทุนสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยเพิ่มพูนศักยภาพทางวิทยาศาสตร์อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง จนสามารถก้าวเข้าสู่อาชีพนักวิทยาศาสตร์หรือนักวิจัยที่มีคุณภาพของประเทศได้อนาคต จึงได้ดำเนินโครงการทุนสำหรับเด็กและเยาวชนชั้นมัธยมศึกษาจนถึงระดับอุดมศึกษาตลอดมา สำหรับผู้ที่สนใจงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อได้รับโอกาสในการทำงานวิจัยร่วมกับนักวิจัยมืออาชีพ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ส่งเสริมการแสดงความสามารถ รวมถึงได้พัฒนาศักยภาพด้านการทำวิจัย และมีโอกาสในการสร้างผลงานโครงการต่าง ๆ ดังรายละเอียดทุนต่อไปนี้

ทุนระดับมัธยมฯ ถึงปริญญาเอก (JSTP)

โครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับเด็กและเยาวชน (Junior Science Talent Project: JSTP) คือ โครงการทุนสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาและนิสิต/นักศึกษาระดับอุดมศึกษา ที่สนใจทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และต้องการประกอบอาชีพนักวิทยาศาสตร์ นักเทคโนโลยี และนักวิจัย

ประเภทของทุน JSTP

  1. ระดับผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Gifted and Talented Children) ได้แก่ เด็กและเยาวชนไทย ในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา จำนวนปีละประมาณ 100 คน ซึ่งกลุ่มนี้จะอยู่ในกระบวนการส่งเสริมประสบการณ์และพัฒนาศักยภาพเป็นเวลาประมาณ 1 ปี เพื่อให้เข้าสู่อาชีพทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้มากที่สุด ซึ่งจะมีกิจกรรม ประกอบไปด้วย ค่ายวิทยาศาสตร์ โครงงานวิทยาศาสตร์ การให้คำแนะนำโดยพี่เลี้ยงที่เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยี
  2. ระดับผู้มีแววอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Genius) คัดเลือกจากกลุ่มแรกปีละประมาณ 10 คน เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากโครงการในระยะยาว ทั้งทุนการศึกษาและการวิจัยจนกว่าจะสำเร็จการศึกษาถึงระดับปริญญาเอก ซึ่งจะมีกิจกรรม เช่น การฝึกอบรมระยะสั้นเพื่อฝึกทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ การประชุมสัมมนาทั้งในและต่างประเทศ การอบรมด้านภาษา และคอมพิวเตอร์ เป็นต้น โดยมีพี่เลี้ยงที่เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีคอยดูแลและให้คำปรึกษา

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร

  1. นักเรียนระดับมัธยมศึกษา นิสิต/นักศึกษาระดับอุดมศึกษา ที่มีความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน คณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ประยุกต์ วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์คอมพิวเตอร์
  2. ผู้ที่ได้รับทุนจากโครงการส่งเสริมและพัฒนาวิทยาศาสตร์อื่น ๆ เช่น โครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษ ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (โครงการ พสวท.) โครงการจัดส่งผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โอลิมปิกระหว่างประเทศโอลิมปิกวิชาการ โครงการชนะเลิศการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ โครงการช้างเผือกปูนชีเมนต์ เป็นต้น โดยจะได้รับสิทธิ์เพิ่มเติมจากทุนที่ได้รับอยู่แล้ว
  3. ผู้ที่มีความสนใจและมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานวิจัยร่วมกับนักวิทยาศาสตร์พี่เลี้ยงในระหว่างที่ศึกษาอยู่ในหลักสูตรของสถาบันตนเองได้

กำหนดการของกิจกรรมโครงการ

  • เปิดสมัคร : เดือนตุลาคม – เดือนธันวาคม ของทุกปี
  • คัดเลือกจากใบสมัคร : เดือนมกราคม ปีถัดไป
  • สอบสัมภาษณ์ : เดือนกุมภาพันธ์ ปีถัดไป
  • ประกาศผลการคัดเลือก : เดือนมีนาคม ปีถัดไป
  • เข้าร่วมกิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์ : พฤษภาคม/ตุลาคม/เมษายน ของปีถัดไป
  • ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ : มิถุนายน – กุมภาพันธ์ ของปีถัดไป

ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.nstda.or.th/th/scholarship-in-nstda


ทุนสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เปิดรับสมัครและคัดเลือกผู้สมัครชาวไทยเป็นประจำทุกปี เพื่อรับทุนการศึกษาของรัฐบาลญี่ปุ่นไปศึกษาที่สถาบันการศึกษาญี่ปุ่น โดยมีประเภททุนที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้

ทุนนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิค (College of Technology Students)

ทุนนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิค (College of Technology Students) เป็นทุนที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการไทย คัดเลือกนักเรียนไทยเพื่อไปศึกษาในวิทยาลัยเทคนิคที่ญี่ปุ่นเป็นประจำทุกปี ระยะเวลารับทุนการศึกษา 4 ปี (รวมระยะเวลาศึกษาภาษาญี่ปุ่น 1 ปี)

คุณสมบัติผู้รับทุน

  1. ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย
  2. อายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 25 ปี
  3. เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือปวช.ชั้นปี 3 และจะจบการศึกษาในเดือนมีนาคมของปีที่เริ่มรับทุนการศึกษา

กำหนดการรับสมัครทุน

เปิดรับสมัครโดยสำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สำนักงานปลัด กระทรวงศึกษาธิการไทย ประมาณต้นเดือนมิถุนายนของทุกปี และเริ่มรับทุนตั้งแต่เดือนเมษายนของปีถัดไป

ทุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students)

ทุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students) เป็นทุนที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย คัดเลือกนักเรียนไทยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นเป็นประจำทุกปี ระยะเวลารับทุนการศึกษา 5 ปี หรือ 7 ปี ขึ้นอยู่กับสาขาวิชา (รวมระยะเวลาศึกษาภาษาญี่ปุ่น 1 ปี)

คุณสมบัติผู้รับทุน

  1. ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย อายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 25 ปี
  2. สำเร็จหรือกำลังจะสำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และจบการศึกษาในเดือนมีนาคม ของปีที่เริ่มรับทุนการศึกษา

กำหนดการรับสมัครทุน

เปิดรับสมัครประมาณต้นเดือนมิถุนายนของทุกปี และเริ่มรับทุนตั้งแต่เดือนเมษายนของปีถัดไป

ทุนญี่ปุ่นศึกษา (Japanese Studies Students)

ทุนญี่ปุ่นศึกษา (Japanese Studies Students) เป็นทุนที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยคัดเลือกนักศึกษาไทยเพื่อไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มพูนทักษะความรู้ภาษาญี่ปุ่น ศึกษาวัฒนธรรมและสภาพสังคมญี่ปุ่น เป็นประจำทุกปี ระยะเวลารับทุนการศึกษา 1 ปีการศึกษา

คุณสมบัติผู้รับทุน

  1. ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 30 ปี
  2. กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 หรือ 3 และศึกษาภาษาญี่ปุ่นเป็นวิชาเอกในระดับปริญญาตรี

กำหนดการรับสมัครทุน

เปิดรับสมัครปลายเดือนมกราคมของทุกปี และเริ่มรับทุนตั้งแต่เดือนตุลาคมของปีเดียวกัน

ทุนนักศึกษาฝึกอบรมวิชาชีพ (Specialized Training College Students)

ทุนนักศึกษาฝึกอบรมวิชาชีพ (Specialized Training College Students) เป็นทุนที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการไทย คัดเลือกนักเรียนไทยเพื่อไปศึกษาในสถาบันอาชีวะศึกษาที่ญี่ปุ่นเป็นประจำทุกปี ระยะเวลารับทุนการศึกษา 3 ปี (รวมระยะเวลาศึกษาภาษาญี่ปุ่น 1 ปี)

คุณสมบัติผู้รับทุน

  1. ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย อายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 25 ปี
  2. เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือปวช.ชั้นปี 3 และจะจบการศึกษาในเดือนมีนาคมของปีที่เริ่มรับทุนการศึกษา

กำหนดการรับสมัครทุน

เปิดรับสมัครโดยสำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สำนักงานปลัด กระทรวงศึกษาธิการไทย ประมาณต้นเดือนมิถุนายนของทุกปี และเริ่มรับทุนตั้งแต่เดือนเมษายนของปีถัดไป

ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.th.emb-japan.go.jp


ทุนรัฐบาลเกาหลี GKS ระดับปริญญาตรี ประจำปี 2565

ทุนรัฐบาลเกาหลี GKS ระดับปริญญาตรี ประจำปี 2565 สำหรับการสมัครผ่านสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย เพื่อให้นักเรียนที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีความสามารถสามารถสานต่อความฝันในมหาวิทยาลัยเกาหลีได้ โดยรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีจะสนับสนุนค่าเทอม ค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายประจำวัน เป็นต้น

คุณสมบัติผู้รับทุน

  1. ผู้มีผลคะแนน TOPIK ระดับ 3 ขึ้นไป หรือ
  2. ลูกหลานทหารผ่านศึกสงครามเกาหลี

วิธีการสมัคร

ผู้ที่มีความประสงค์สมัคร สามารถส่งเอกสารสมัครไปที่ Embassy of the Republic of Korea, Korean Education Center (KEC) 23 Thiam-Ruammit Road, Ratchadapisek, Huay-Kwang, Bangkok 10310 Thailand โทร +66-2-115-1027

เอกสารทั้งหมดต้องส่งแบบลงทะเบียนมีเลขพัสดุที่สามารถตรวจสอบได้ และ ไม่สามารถนำมาส่งได้ด้วยตนเองหรือส่งผ่านบริการแมสเซนเจอร์ และโปรดระบุหน้าซองเอกสาร “For GKS” และกรอกแบบฟอร์มยืนยันการส่งเอกสารทางออนไลน์ ได้ที่ https://bit.ly/2Xq9ZG6

กำหนดการรับสมัครทุน

สามารถยื่นเอกสารการสมัครในช่วงเดือนกันยายน ถึง ตุลาคมของทุกปี

สอบสัมภาษณ์และประกาศผลในเดือนตุลาคมเช่นเดียวกัน ผ่านทาง Korean Education Center in Thailand

ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ overseas.mofa.go.kr และ facebook.com/kecbkk


ทุนรัฐบาลรัสเซียสำหรับนักศึกษาไทย สำหรับปี 2565-2566

ทุนรัฐบาลรัสเซียสำหรับนักศึกษาไทย ที่มีความประสงค์ในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในประเทศรัสเซีย ทุนการศึกษาสำหรับปี 2565-2566

คุณสมบัติผู้รับทุน

ผู้สมัครเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (สำหรับการศึกษาระดับปริญญาตรี) หรือปริญญาตรี (สำหรับการศึกษาระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอก) หรือกำลังศึกษาอยู่ในปีสุดท้ายของโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือปริญญาตรี

วิธีการสมัคร

ผู้สมัครควรลงทะเบียนและสร้างบัญชีของตัวเองบนเว็บไซต์ education-in-russia.com จากนั้นให้ส่งใบสมัครโดยกรอกเอกสารพร้อมแนบสำเนาเอกสารที่จำเป็น เช่น หนังสือเดินทาง ประกาศนียบัตรระดับมัธยมปลายหรือใบปริญญาบัตร

สำหรับผู้ที่กำลังศึกษาในปีสุดท้ายของระดับการศึกษาให้เตรียมเอกสารใบสมัคร ใบแสดงผลการศึกษารายวิชาพร้อมวันที่คาดว่าจะสำเร็จการศึกษาภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ทั้งนี้ เอกสารของผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกจะถูกส่งไปยังกระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์แห่งสหพันธรัฐรัสเซียเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการคัดเลือกต่อไป ผู้สมัครที่ได้รับทุนการศึกษาจะได้รับแจ้งต่อไป

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โดยการส่งอีเมลไปที่ russianembassybkk@gmail.com หรือศึกษาผ่านเว็บไซต์ ทุนรัฐบาลรัสเซียสำหรับนักศึกษาไทย ที่มีความประสงค์ในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในประเทศรัสเซีย ทุนการศึกษาสำหรับปี 2565-2566


ทุนมูลนิธิจรูญเอื้อชูเกียรติ

ทุนการศึกษาของมูลนิธิจรูญเอื้อชูเกียรติ ให้ครอบคลุมการศึกษาสายสามัญในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายถึงอุดมศึกษา (ปริญญาตรี) และการศึกษาสายวิชาชีพ ได้แก่ระดับ ปวช. และ ปวส. ซึ่งทุนนี้ไม่มีเงื่อนไขการใช้ทุนคืนใด ๆ ทั้งสิ้น

คุณสมบัติทั่วไปของผู้รับทุน

  1. ผู้รับทุนเป็นผู้มีภูมิลำเนาอยู่นอกกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
  2. ผู้รับทุนมีผลการเรียนดีตามเกณฑ์ที่มูลนิธิฯ กำหนด
  3. สถาบันที่ผู้รับทุนต้องการเข้าศึกษาเป็นสถาบันของรัฐ

ทุนการศึกษาระดับมัธยมศึกษา

เพื่อสนับสนุนนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น โดยมูลนิธิจะให้ทุนผ่านโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งมีการติดต่อประสานงานกับมูลนิธิไว้ เป็นทุนการศึกษาแบบให้เปล่าเป็นเงิน 5,000 บาท ต่อทุนต่อปี ซึ่งมูลนิธิจะจ่ายเงินจำนวนทั้งหมดเข้าบัญชีของโรงเรียนในต้นปีการศึกษา โดยให้นักเรียนเบิกทุนจากครูผู้ดูแลระหว่างปีตามแต่ทางโรงเรียนกำหนด

คุณสมบัติผู้รับทุน

  1. เป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6
  2. ผลการเรียนไม่ต่ำกว่า 3.0
  3. เรียนดีและมีความประพฤติดี
  4. ครอบครัวมีความจำเป็นและสมควรได้รับความช่วยเหลือ
  5. มีศักยภาพและความตั้งใจที่จะศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
  6. ไม่เป็นผู้รับทุนการศึกษาจากที่อื่นอยู่แล้ว

ระยะเวลาการให้ทุน

นักเรียนที่ได้รับทุนช่วยเหลือการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากมูลนิธิ จะได้รับทุนดังกล่าวต่อเนื่องทุกปี จนกว่าจะสิ้นสุดลงหรือถูกยกเลิกในกรณี ดังต่อไปนี้

  1. ผู้รับทุนจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนที่รับทุน หรือ
  2. ผู้รับทุนลาออกจากโรงเรียนที่รับทุน หรือ
  3. ผู้รับทุนมีผลการเรียนในภาคการศึกษาต่ำกว่า 2.0 หรือ
  4. ผู้รับทุนไม่ได้ส่งจดหมายรายงานไปยังมูลนิธิฯ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
  5. ผู้รับทุนไม่รายงานเมื่อมูลนิธิถามมา
  6. เหตุอื่น ๆ ซึ่งมูลนิธิ เห็นว่าทำให้ผู้รับทุนขาดคุณสมบัติ

ขั้นตอนการขอรับทุน

  1. มูลนิธิจะแจ้งจำนวนทุนสำหรับนักเรียนรับทุนใหม่ในแต่ละปีการศึกษาให้โรงเรียนทราบ
  2. โรงเรียนคัดเลือกนักเรียนที่มีคุณสมบัติตามที่ระบุข้างต้นและเห็นสมควรได้รับทุน
  3. นักเรียนผู้สมัครกรอกข้อมูลในเอกสารขอรับทุนของมูลนิธิ อย่างครบถ้วนและให้ทางโรงเรียนจัดส่งให้มูลนิธิ ภายในเดือนกุมภาพันธ์
  4. มูลนิธิจะแจ้งผลการพิจารณาการขอทุนให้โรงเรียนทราบภายในเดือนมีนาคม

ทุนการศึกษาวิชาชีพ (ระดับ ปวช.)

เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายแก่นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 และเลือกเรียนต่อในสายวิชาชีพ ซึ่งเป็นทุนการศึกษาแบบให้เปล่าเป็นเงิน 7,000 บาท ต่อปี มูลนิธิจะโอนเงินเข้าบัญชีของนักเรียนในทุกต้นปีการศึกษา และนักเรียนมีหน้าที่รับผิดชอบในการส่งใบรับทุนการศึกษา พร้อมทั้งหลักฐานการชำระเงินให้สถาบันการศึกษา และรายงานประจำปี ให้แก่มูลนิธิ ตามเวลาที่กำหนด

คุณสมบัติผู้รับทุน

  1. เป็นนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3
  2. เรียนดีและมีความประพฤติดี มีความรับผิดชอบ
  3. ผลการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นไม่เคยต่ำกว่า 2.0 และเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.5
  4. มีหลักฐานยืนยันการรับเข้าเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาหรือโรงเรียนวิชาชีพอื่นๆ ของหน่วยราชการหรือรัฐวิสาหกิจ (ยกเว้นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล) ซึ่งมีหลักสูตรการศึกษาที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นโรงเรียนที่ได้รับความเห็นชอบจากมูลนิธิฯ
  5. มีความตั้งใจที่จะประกอบอาชีพในแขนงวิชาที่เรียน

ระยะเวลาการให้ทุน

ตามระยะเวลาของหลักสูตรการเรียน ทั้งนี้ไม่เกิน 3 ปี โดยมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  1. นักเรียนไม่เลิกเรียนหรือถูกให้ออกจากสถาบัน
  2. นักเรียนต้องมีผลการเรียนในแต่ละภาคการศึกษาไม่ต่ำกว่า 2.0
  3. มูลนิธิต้องได้รับใบรับทุน พร้อมทั้งหลักฐานการชำระเงินให้แก่สถาบันการศึกษา ตามเวลาที่กำหนด
  4. มูลนิธิต้องได้รับผลการศึกษาตามเวลาที่กำหนด
  5. มูลนิธิต้องได้รับรายงานประจำปีตามเวลาที่กำหนด
  6. มูลนิธิต้องได้รับรายงานตามที่ขอไป
  7. ต้องไม่มีเหตุอื่นซึ่งมูลนิธิ เห็นว่าทำให้นักเรียนขาดคุณสมบัติ

ขั้นตอนการขอรับทุน

มูลนิธิจรูญเอื้อชูเกียรติเปิดรับสมัครขอทุนการศึกษา ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์ ของทุกปี และจะแจ้งผลให้ทราบภายในเดือนมีนาคม โดยมีขั้นตอนการสมัครขอรับทุน ดังนี้

  1. นักเรียนดาวน์โหลดใบสมัครขอรับทุนการศึกษาระดับ ปวช. ในเว็บไซต์ของมูลนิธิหรือขอใบสมัครทางไปรษณีย์
  2. นักเรียนกรอกใบสมัครรับทุนการศึกษาระดับ ปวช. อย่างครบถ้วน พร้อมเอกสารประกอบ ได้แก่

   1) เอกสารแจ้งผลการเรียนอย่างเป็นทางการ (มัธยมศึกษาปีที่ 1-3)

   2) จดหมายแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษา หรืออาจารย์แนะแนว

ทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษา

เพื่อเพิ่มโอกาสด้านการศึกษาระดับปริญญาตรีแก่นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยมูลนิธิจะให้ทุนตรงแก่นักศึกษา เป็นทุนให้เปล่า ทุนละ 40,000 บาท ต่อปี โอนเงินเข้าบัญชีนักศึกษาปีละ 2 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาทในต้นภาคการศึกษา

คุณสมบัติผู้รับทุน

  1. เรียนดีและมีความประพฤติดี มีความรับผิดชอบ
  2. ผลการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือผลการเรียน 3 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.0
  3. สอบเข้าศึกษาในภาควิชาที่ตั้งใจในมหาวิทยาลัยของรัฐ
  4. มีความตั้งใจที่จะประกอบอาชีพตามภาควิชาที่เรียน
  5. มีจิตสำนึกในการพัฒนาตนเองและสังคม
  6. ไม่เคยได้รับปริญญาอื่น
  7. ไม่ได้รับทุนการศึกษาอื่น (ทุน กยศ. ถือเป็นเงินกู้ ไม่นับเป็นทุนการศึกษา)
  8. นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยของรัฐ

ระยะเวลาการให้ทุน

ตามระยะเวลาของหลักสูตรปริญญาตรี การให้ทุนจะถูกยกเลิกในกรณี ดังนี้

  1. นักศึกษาเลิกเรียนหรือถูกให้ออกจากสถาบัน หรือ
  2. มูลนิธิไม่ได้รับจดหมาย หรือรายงานผลการศึกษา หรือ
  3. นักศึกษามีผลการเรียนต่ำกว่า 2.0 ในภาคใดภาคหนึ่ง (ทุนจะถูกยกเลิกในภาคการศึกษาต่อไป)
  4. เหตุอื่นซึ่งมูลนิธิเห็นว่าทำให้นักศึกษาขาดคุณสมบัติ

ขั้นตอนการขอรับทุน

มูลนิธิจรูญเอื้อชูเกียรติเปิดรับสมัครขอทุนการศึกษา ในช่วงเดือนธันวาคม ถึง มีนาคม ของทุกปี ดังขั้นตอนต่อไปนี้

  1. นักเรียน/นักศึกษาดาวน์โหลดใบสมัครขอรับทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษาในเว็บไซต์ของมูลนิธิหรือขอใบสมัครทางไปรษณีย์
  2. นักเรียน/นักศึกษากรอกใบสมัครรับทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษาอย่างครบถ้วน พร้อมเอกสารประกอบ ได้แก่

   1) เอกสารแจ้งผลการศึกษาอย่างเป็นทางการ (มัธยมศึกษาปีที่ 4-6) หรือผลการศึกษา 3 ปีที่ผ่านมา

   2) จดหมายแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษา หรืออาจารย์แนะแนว

ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cefoundation.or.th


มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา (EDF)

มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา (EDF) มุ่งหวังที่จะต่ออายุการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนยากจนในชนบทห่างไกล ให้ได้มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียน ด้วยการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  มูลนิธิจึงสามารถส่งต่อความช่วยเหลือเหล่านี้ ในรูปของทุนการศึกษา มากกว่า 5,600 โรงเรียน ใน 61 จังหวัดทั่วประเทศ

ทุนการศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4 – ม.6) และอาชีวศึกษา

โครงการทุนการศึกษาสำหรับเด็กนักเรียนเรียนดีในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4 – ม.6) และอาชีวศึกษา เพื่อที่จะสามารถต่อยอดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา หรือนำความรู้ทางวิชาชีพที่ได้เรียนเพื่อนำไปประกอบอาชีพช่วยเหลือตนเองและครอบครัวต่อไป โดยทุนจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปโรงเรียน หรือวิทยาลัยที่อยู่ในตัวอำเภอ รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านการเรียนอื่น ๆ ที่นโยบายของรัฐยังไม่ครอบคลุมอีกด้วย

คุณสมบัติผู้รับทุน

  1. นักเรียนที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมีความประสงค์จะศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6) หรืออาชีวศึกษา (ปวช.) หรือกำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรืออาชีวศึกษา แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการศึกษาต่อ
  2. มีความประพฤติดี และมีผลการเรียนดี โดยมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.75
  3. ไม่เป็นบุตรข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานท้องถิ่นของรัฐ หรือลูกจ้างประจำ

ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.edfthai.org


ทุนมูลนิธิทางสู่ฝัน ปั้นคนเก่

มูลนิธิทางสู่ฝัน ปั้นคนเก่ง เปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษาตามหลักเกณฑ์ที่มูลนิธิกำหนด ซึ่งมีมหาวิทยาลัยที่ได้รับพิจารณาจัดสรรทุนการศึกษา ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาเขตรังสิต, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  วิทยาเขตบางเขน และมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา ซึ่งมีสาขาวิชาที่กำหนดไว้ให้ได้รับทุน คือ แพทยศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์, นิติศาสตร์, วิทยาศาสตร์ และคอมพิวเตอร์, รัฐศาสตร์, เกษตรศาสตร์, ครุศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ได้รับทุน

  1. สัญชาติไทย และมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย
  2. อายุไม่เกิน 21 ปีบริบูรณ์
  3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญหรือสายอาชีพ
  4. สามารถสอบผ่านเข้ามหาวิทยาลัยและคณะตามที่มูลนิธิกำหนด (เฉพาะภาคปกติ)
  5. เป็นผู้ด้อยโอกาสเนื่องจากครอบครัวยากจน หรือกำพร้า โดยผู้อุปการะมีฐานะยากจน มีรายได้รวมต่ำกว่า 180,000 บาทต่อปี หรืออยู่ในความดูแลอุปถัมภ์ของสถานสงเคราะห์หรือมูลนิธิต่าง ๆ
  6. เป็นผูมีความประพฤติดี และอยู่ในระเบียบวินัย

กำหนดการเปิดรับสมัคร

เปิดรับสมัครในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึง กรกฎาคม ของทุกปี ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.daf.or.th/download-pr


ทุนการศึกษาสำหรับการเรียนต่อในประเทศ ระดับ ม.ปลาย/ป.ตรี – ทุนจากองค์กรชั้นนำในไทย
ทุนการศึกษาสำหรับการเรียนต่อในประเทศ ระดับ ม.ปลาย/ป.ตรี – ทุนจากองค์กรชั้นนำในไทย

สำหรับน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษาคนไหนที่สนใจสมัครทุนการศึกษาจากองค์กรชั้นนำในไทยดังที่ Owlcampus ได้รวบรวมไว้ข้างต้น สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปิดรับสมัครได้ตามเว็บไซต์ของหน่วยงานนั้น ๆ ได้เลย เพื่อไม่ให้พลาดในทุก ๆ โอกาสทุนที่มีในไทยนั่นเอง และทุนการศึกษาสำหรับการเรียนต่อมัธยมศึกษาตอนปลายหรือระดับปริญญาตรี ในตอนหน้า จะเป็นทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในไทย สามารถรอติดตามสาระดี ๆ จาก พี่ ๆ Owlcampus ในตอนต่อไปได้เลย !