จากนักเรียนแลกเปลี่ยนเกาหลี… สู่นักเรียนทุนรัฐบาล

หนึ่งความตั้งใจของนักเรียนที่เรียนเอกภาษาต่างประเทศหลาย ๆ คน ก็คือการได้ไปเรียนภาษาในประเทศนั้น ๆ กับเจ้าของภาษา เราในฐานะนิสิต เอกภาษาเกาหลี ก็เป็นคนหนึ่งที่ใฝ่ฝันมาก ๆ ว่า “อยากไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศเกาหลี” ให้ได้สักครั้ง เพราะตอนเรียนที่ไทย เราได้ฟังเรื่องเล่าที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่เกาหลีจากอาจารย์ เลยจุดประกายให้เราอยากไปสัมผัสประสบการณ์ วัฒนธรรมของบ้านเมืองเขาด้วยตัวเองบ้าง และก็อยากเอาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จะได้ใช้ภาษาเยอะ ๆ อยากไปเห็นว่าสิ่งที่เราได้เรียนในหนังสือ กับสิ่งที่เราเห็นประเทศเกาหลีผ่านสื่อต่าง ๆ ของจริงนั้นเป็นอย่างไร!!

เริ่มต้นที่คณะมนุษยศาสตร์ มศว

โครงการที่เรามีโอกาสเข้าร่วมคือ “โครงการแลกเปลี่ยนเรียนภาษาและวัฒนธรรมเกาหลี 7+1” สำหรับนิสิตที่เรียนเอกภาษาเกาหลี คณะมนุษยศาสตร์ มศว โดยที่โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กับมหาวิทยาลัย Hankuk University Foreign Studies ณ ประเทศเกาหลีใต้ โดยเปิดโอกาสให้นิสิตไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศเกาหลีใต้เป็นระยะเวลา 6 เดือน

โดยคุณสมบัติของผู้สมัครคือ ต้องเป็นนิสิตเอกภาษาเกาหลี คณะมนุษยศาสตร์ มศว และถ้าจะสมัครโครงการนี้ จะต้องรักษาเกรดเฉลี่ยของวิชาเอกทุกวิชาตั้งแต่ปี 2 ให้ไม่ต่ำกว่า B

เมื่อรู้อย่างนั้นแล้ว เพื่อน ๆ ในเอก รวมทั้งตัวเราเองที่มีเป้าหมายว่าอยากจะไปแลกเปลี่ยนผ่านโครงการนี้ ก็เลยต้องพยายามตั้งใจเรียน รักษาเกรดให้ผ่านเกณฑ์… พอช่วงใกล้จบปี 3 อาจารย์ก็จะมาแจ้งรายละเอียดการรับสมัคร เราก็กรอกใบสมัครและรอทดสอบกับอาจารย์อีกเล็กน้อย “การทดสอบก็จะเป็นการสัมภาษณ์ภาษาเกาหลีเบื้องต้น” เพื่อให้อาจารย์มั่นใจว่า… เราไปแล้วจะสามารถสื่อสารและเอาตัวรอดได้ โดยในปีนั้น มีนิสิตได้เข้าร่วมโครงการนี้ทั้งหมด 7 คน และโชคดีที่เราก็เป็น 1 ในนั้น ได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเกาหลีตามที่ตั้งใจไว้…

โครงการแลกเปลี่ยนเรียนภาษาและวัฒนธรรมเกาหลี

เนื่องจากว่าโครงการนี้เป็นโครงการแลกเปลี่ยนไม่ใช่ทุน นิสิตที่เข้าร่วมต้องออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เอง เช่น ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเดินทาง แต่สิ่งที่ทำให้เราประหยัดไปได้เยอะมากกกก… “นั่นก็คือค่าเทอม” เพราะว่าเราจะได้จ่ายค่าเทอมราคาปกติที่ไทย แต่ตัวไปเรียนที่ประเทศเกาหลีนั่นเอง

ช่วงที่ใช้ชีวิตที่นั่น ทั้งมหาลัยและหอพักดูแลนักเรียนต่างชาติดีมาก ใครที่กำลังมองหาคอร์สเรียนภาษาที่เกาหลี เราแนะนำให้พักกับหอพักมหาลัย นอกจากจะสะดวกต่อการเดินทางไปเรียนและปลอดภัยแล้ว ค่าหอพักต่อเทอมจะอยู่ที่ราว ๆ 1,300,000 วอน (ประมาณ 37,000 บาท) ซึ่งถือว่าถูกกว่าหอพักข้างนอก โดยใน 1 ห้องนั้นจะอยู่ได้ 2 คน ทางหอพักจะสุ่มรูมเมทให้ “ยิ่งถ้าได้เพื่อนต่างชาติมาเป็นรูมเมท ยิ่งทำให้เราได้เพื่อนใหม่ และฝึกภาษาไปพร้อม ๆ กันด้วย”

สิ่งอำนวยความสะดวกของหอพักจะมี ฟิตเนส ห้องซักผ้า พื้นที่ส่วนกลาง ตู้กดน้ำ ไมโครเวพอุ่นอาหาร ใกล้ ๆ ก็จะมีมินิมาร์ท และก็โรงอาหารของหอพัก ราคาอาหารในมหาลัยตกมื้อละราว ๆ 3,000-4,000 วอน (90 – 120 บาท) ถ้าเทียบกับร้านอาหารข้างนอกถือว่าถูกกว่าครึ่งนึงเลย!! ถ้าเราเน้นกินอาหารในมหาลัยก็ประหยัดไปหลายบาทค่ะ

ชีวิตประจำวันของนักเรียนแลกเปลี่ยนเกาหลี

โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนเกาหลีนี้ เขาจัดให้เราได้เรียนภาษาเกาหลีที่สถาบันสอนภาษาเกาหลีเพื่อคนต่างชาติ ในช่วงเช้าจันทร์ – ศุกร์ 8.00 – 12.00 ส่วนในช่วงบ่ายก็จะไปเรียนวิชาปกติของมหาลัย และก่อนที่จะเริ่มเรียนภาษาเกาหลี ที่สถาบันสอนภาษาจะมีการสอบวัดระดับก่อน ว่าเราเหมาะจะได้ไปเริ่มเรียนระดับไหน มีตั้งแต่ระดับต้นไปจนถึงระดับสูงเลย “เราได้เริ่มที่ระดับ 4 จากทั้งหมด 6 ระดับ”

โดยที่ในคลาสก็จะมีเพื่อนที่มาจากหลากหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น จีน และคาซัคสถาน ในช่วงแรกที่เข้าไปเรียน เราก็เข้าใจที่อาจารย์พูด แต่โต้ตอบไม่ได้ทันที เพราะนึกคำศัพท์ไม่ออก พอผ่านไปสักพัก ได้พูดทุกวัน ๆ ก็เริ่มสื่อสารได้มากขึ้น ก็ปรับตัวได้

บทความแนะนำ : การสอบวัดระดับความถนัดทางภาษาเกาหลี TOPIK

แต่ว่าก็ใช้เวลาปรับตัวไม่นาน…

การเรียนในทุกวัน ๆ ทั้ง 4 ชั่วโมงนั้น จะได้ฝึกทักษะทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น “แกรมม่า การอ่าน การฟัง การพูด การเขียน” โดยอาจารย์ผู้สอนจะเป็นอาจารย์เกาหลีที่มีประสบการณ์สอนชาวต่างชาติโดยเฉพาะ อาจารย์ก็เลยจะพยายามยกตัวอย่างเปรียบเทียบหลาย ๆ อันให้เข้าใจง่าย

อาจารย์จะให้เราฝึกแต่งประโยคและทำแบบฝึกหัดหลังเรียนจบทันที จากนั้นอาจารย์จะเดินดูนักเรียนแต่ละคน ถ้ายังไม่เข้าใจตรงไหน อาจารย์ก็จะช่วยอธิบายให้อีกครั้ง

การเรียนที่สถาบันสอนภาษานั้นไม่เครียดเลย เพราะเวลาสอน อาจารย์จะเน้นเล่าเรื่องสนุก ๆ ฮา ๆ  และให้โอกาสนักเรียนเล่าเรื่องแบ่งปันของประเทศตัวเอง ช่วงที่ได้เรียนที่สถาบันภาษาเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกสนุกกับการเรียนมาก “สนุกขนาดที่ว่า… ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่อยากไปเรียน” แต่ด้วยความที่เราเรียนกับอาจารย์เจ้าของภาษา บางทีอาจารย์ก็อาจจะพูดเร็วบ้าง สิ่งที่ช่วยเราได้คือ การแปลคำศัพท์ไปล่วงหน้า ทำแค่เท่านี้ ก็จะช่วยให้เราเรียนทันเพื่อน พอไม่ต้องเสียเวลาเปิดดิกในเวลาเรียน เราจะโฟกัสกับสิ่งที่อาจารย์สอนได้ดีขึ้น

เรารู้สึกว่าการได้ไปเรียนที่สถาบันสอนภาษาที่นั่น “ทำให้เราได้เรียนเนื้อหาที่เข้มข้นและลึกกว่าเรียนที่ไทย” พร้อม ๆ กับได้พัฒนาทักษะภาษาเร็วมาก อาจจะเพราะได้เรียนซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ แบบนั้นทุกวัน ฉะนั้นแล้วการเรียนภาษาให้ได้ผลคือวินัย อาจจะไม่ต้องฝึกทั้งวันทั้งคืน แต่ฝึกทุกวัน วันละนิดหน่อย เราก็จะเก่งขึ้นได้แน่นอน

มหาวิทยาลัยฮันกุก Hankuk University

หลังจากเรียนช่วงเช้าจบ ช่วงบ่ายก็จะไปเข้าเรียนวิชามหาลัย ส่วนนี้ เราและเพื่อน ๆ ได้ถูกจัดให้ไปเรียนกับนักเรียนเกาหลีที่เรียนเอกภาษาไทยของมหาลัยฮันกุกค่ะ ฟังแล้วอาจจะงง นักเรียนไทยไปเรียนภาควิชาภาษาไทยกับนักเรียนเกาหลีคืออะไร!!? “ถึงแม้จะเป็นภาควิชาภาษาไทย แต่เขาจะมีสอน พวกวิชาการล่าม การแปล ไทย-เกาหลี”

ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น วิชาการแปล อาจารย์จะให้นักเรียนเกาหลีแปลบทความภาษาเกาหลีเป็นภาษาไทย ส่วนนักเรียนไทยจะเน้นแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาเกาหลีสลับกัน ตรงไหนที่นักเรียนเกาหลีไม่รู้เราจะได้ช่วยเขา ส่วนตรงไหนที่เราไม่รู้เราก็จะถามเขาได้ค่ะ เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันนั่นเอง

ด้วยความที่เราเรียนแคมปัสที่อยู่นอกโซล เรียนเสร็จเราก็จะกลับหอพักเลย ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน ช่วงเย็นก็จะมีนัดกับเพื่อนคนไทย เพื่อนต่างชาติกินข้าว พูดคุย เล่นเกมส์กันบ้าง และทางมหาลัยฮันกุก เขาจะมีสตาฟที่ดูแลนักเรียนต่างชาติโดยเฉพาะด้วย เขาจะมีจัดทริปให้เราไปเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ เราสามารถเข้าร่วมหรือไม่ก็ได้ แต่จะมีค่าใช้จ่ายนิดหน่อย กิจกรรมที่ฝนได้ไปเข้าร่วม เช่น ทริปไป DMZ เขตแบ่งเส้นประเทศเกาหลีเหนือ-ใต้ ทริปเที่ยว 2 วัน 1 คืน ที่จังหวัดคังวอนโด จะบอกว่าสนุกมาก ตื่นเต้นที่ได้เห็นสถานที่จริงที่เราเคยเรียนจากแค่ในหนังสือ และได้เพื่อนใหม่ ๆ เยอะเลย

ประทับใจจนอยากกลับไปเรียนต่ออีกครั้ง

พอได้มีโอกาสมาแลกเปลี่ยนที่ประเทศเกาหลี ก็รู้สึกว่าเราชอบระบบมหาลัยของเขา ที่มีหลากหลายวิชาให้เลือกตามความสนใจ สิ่งอำนวยความสะดวกของมหาลัยก็พร้อม ก็เอื้อต่อบรรยากาศการเรียน อีกอย่างเรา “ก็ชอบการใช้ชีวิตที่นี่เพราะง่ายและปลอดภัย” ระบบคมนาคมเขาก็ดี เทคโนโลยีก็ทันสมัย

และเราเองนั้น หลังจากเรียนจบก็ได้มีโอกาสเข้าไปทำงานในบริษัทโลจิสติกส์เกาหลีได้ประมาณปีกว่า เราเริ่มสนใจสายงานด้านนี้และอยากเรียนจริงจัง เราเลยเริ่มมองหาทุนเรียนต่อปริญญาโท ซึ่งประเทศเกาหลีก็เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการศึกษา และรัฐบาลเกาหลีก็มอบทุนปริญญาตรี-เอก ให้นักเรียนต่างชาติทั่วโลกทุกปีอยู่แล้ว เราก็เลยมองว่าทุนนี้จะเป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ เลยพยายามสมัครทุนให้ได้เพื่อให้ได้มาเรียนต่อในสาขาที่เราอยากเรียน ได้เรียนในประเทศที่เราชอบ “และยังจะได้ฝึกภาษาเกาหลีให้เก่งมากขึ้นด้วย”

และในบทความหน้า เราจะมาแนะนำให้ทุก ๆ คนรู้จักกับทุนรัฐบาลเกาหลี GKS ที่เรานั้นได้รับโอกาสในการมาศึกษาต่อปริญญาโทที่นี่ อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ…