Owl Interview วันนี้มีโอกาสได้คุยกับพี่เตเจ้าของเอเจนซี่โฆษณา Growfox และยังเป็นอาจารย์สอนที Content Shifu อีกด้วย เนื้อหาที่เราอยากขอสัมภาษณ์พี่เตก็เลยหนีไม่พ้นเรื่องราวออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องงานแต่ว่าเป็นเรื่องส่วนตัวนิดนึง เพราะเราทราบมาว่าพี่เตมีลูกอายุ 3 ขวบ เป็นเด็กอนุบาลเต็มตัวและกำลังเผชิญหน้ากับการเรียนออนไลน์ในยุคที่โควิทยังไม่หายไปจากบ้านเรา

แบ่งปันประสบการณ์เด็กอนุบาลเรียนออนไลน์ คุณพ่อกับคุณลูกร่วมแบ่งปันประสบการณ์เรียนออนไลน์ของเด็กอนุบาล
คุณพ่อกับคุณลูกร่วมแบ่งปันประสบการณ์เรียนออนไลน์ของเด็กอนุบาล

เริ่มต้นบทสนทนา พี่เตออกตัวก่อนเลยว่าการรับมือกับการเรียนออนไลน์ของลูกนั้น เจ็บปวดมาก (พี่เค้าใช้คำนี้จริงๆ)

เริ่มต้นเรียนออนไลน์ตั้งแต่เมื่อไหร่?

เดิมลูกสาวของผมนั้นเรียน Preschool แห่งหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดเป็นจะเป็นช่วงที่เค้าอายุได้ 2 ขวบ แฟนผมเป็นคนไปรับ-ส่ง เพราะเรียนแค่ครึ่งวัน ลูกก็สนุกกับโรงเรียนมากๆ เพราะว่าด้วยความที่บ้านผมเป็นครอบครัวเล็กอยู่กันเอง เราเลยอยากให้ลูกมีเพื่อนๆ ตอนนั้นการเรียน Preschool ครึ่งวันเลยเป็นทางเลือกที่ลงตัว

เมื่อเข้าเทอมที่ 3 ก็มาเจอกับโควิทระบาดรอบแรก โรงเรียนก็ถูกสั่งให้ปิดไปด้วย แต่ปิดไม่นานมากก็กลับมาเรียนที่โรงเรียนได้อีกครั้งนึง ช่วงที่ปิดการเรียนออนไลน์เลยเป็นลักษณะที่นำกิจกรรมที่โรงเรียนมาทำที่บ้านมากกว่าการเรียนจริงๆ ซึ่งทางโรงเรียนก็เตรียมของให้ พวกกระดาษ ลูกปัด อุปกรณ์ศิลปะต่างๆ ตามวัยเค้านั่นแหล่ะครับ

เด็กเล็กยังไม่พร้อมที่จะเรียนออนไลน์?​

ตอนนั้นกิจกรรมของลูกผมคือ ร้องเพลง เล่นน้ำ ปั้นดินน้ำมัน คือการไปโรงเรียนนี่สภาพเละเทะกลับมาทุกวัน (ยิ้ม) พอเป็นการเรียนออนไลน์มันทำกิจกรรมพวกนี้ผ่านคอมพิวเตอร์ไม่ได้ แถมตอนนั้นลูกผมยังคุยกับใครไม่รู้เรื่องเลยครับ เพราะที่โรงเรียนใช้ภาษาอังกฤษอย่างเดียว

สิ่งที่คาดหวังจากการไปโรงเรียนคือให้เค้าได้เจอเพื่อนๆ ได้เล่นกับเพื่อน มันเลยไม่เกิดขึ้น ส่วนตัวแล้วผมก็คิดว่าเด็กขนาดนี้มันไม่พร้อมที่จะเรียนออนไลน์

ทำไมถึงย้ายโรงเรียน?​

เค้าให้เรียนได้ถึงอายุ 5 หรือ 7 ขวบนี่แหล่ะครับ แล้วก็ต้องย้ายโรงเรียนไปเรียนระดับอนุบาลหรือประถม ที่เดิมมันแค่ Preschool เหมือนเตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียนจริงๆครับ

และลูกผมได้โรงเรียนใกล้บ้านมากๆ ขับรถประมาณ 5-10 นาที เปิดเทอม 1 เมื่อเดือนสิงหาคม เข้าไปเรียนชั้น EY1 ซึ่งเป็นชั้นเล็กสุดของที่นี่ ช่วงนั้นยังไม่มีการระบาดของโควิทเพิ่มเติม ถือว่าโชคดีมากที่ได้เข้าไปเรียนที่โรงเรียนแบบเต็มๆเทอม พัฒนาการก็ดีขึ้นตามลำดับ คุยกับคุณครูและเพื่อนๆเข้าใจมากขึ้น

ที่โรงเรียนเด็กๆเรียนอะไรกันบ้าง?​

จริงๆก็คล้ายๆกับโรงเรียนเดิมนะครับ เพราะก็ห่างกันปีเดียวเอง เทอม 1 ที่เรียนที่โรงเรียน ยังคงเน้นไปที่การเล่น ฟังนิทาน การช่วยเหลือตัวเอง ระเบียบวินัย การออกกำลังกาย พละก็มีเรียนว่ายน้ำตั้งแต่แรก บังคับทุกคน

แต่ก็เริ่มมีเรียนพวกตัวหนังสือ ABC โดยการดูจากชื่อตัวเอง และเพื่อนๆ เอาตัวหนังสือมาแปะบนตัวหนีบบ้าง นอกจากจะได้รู้จักตัวหนังสือแล้ว ยังได้ฝึกกล้ามเนื้อของนิ้วด้วย แป๊ปๆเด็กก็สามารถอ่านชื่อเพื่อนได้ทั้งห้อง ก็ดูจะเป็นการเรียนรู้การอ่านออกเสียงไปด้วยในตัว


เปิดเทอม 2 พร้อมกับการระบาดรอบใหม่​

พอขึ้นเทอม 2 ก็งานเข้าเลยครับ มีการระบาดรอบใหม่เกิดขึ้น เลยต้องเรียนออนไลน์ไปประมาณ 2 อาทิตย์ได้ ทางโรงเรียนก็จัดเตรียมพวก Learning Package ให้ผู้ปกครองไปรับ แล้วนำมาประกอบการเรียน

(หัวเราะ) ช่วงนั้น…เจ็บปวดมากกกก เหมือนอะไรๆก็ไม่พร้อม ขนาด application ที่เลือกใช้ในการ video call ของครูแต่ละคนยังแตกต่างกันเลยครับ แต่ว่ามันก็เป็นแค่ช่วงสั้นๆ ประมาณ 2 อาทิตย์ได้ หลังจากนั้นก็กลับไปเรียนเทอม 2 ที่โรงเรียนได้จนจบเทอม

พี่เตได้กล่าวไว้ ณ ออฟฟิศของเค้า (มีหมา 3 ตัวน่ารักมากๆ)

ความรู้สึกหลังจากที่ลูกต้องกลับมาเรียนออนไลน์อีกครั้ง ?​

จริงๆตอนที่เรากำลังคุยกันอยู่ลูกผมก็เรียนออนไลน์เทอม 3 มาสักระยะหนึ่งแล้วครับ และแนวโน้มก็ดูเหมือนว่าจะต้องเรียนไปจนจบเทอม 3 เลยครับ (เทอม 3 ที่โรงเรียนนี้สั้นที่สุด)  ความรู้สึกตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อตอนเทอม 2 แล้วครับ ยอมรับว่าโรงเรียนเตรียมตัวมาได้ดีขึ้น

เรียนต่อ LEGO แบบออนไลน์
เรียนต่อ LEGO แบบออนไลน์

โชคดีที่ตอนเทอม 2 นั้นได้กลับไปเรียนที่โรงเรียน พัฒนาการหลายๆด้านของลูกผมดีขึ้นมาก คุยกับคุณครูได้ดี จนเราแปลกใจเลยว่า เฮ้ย.. เด็ก 3 ขวบกว่าๆใช้ภาษาอังกฤษได้ระดับนี้เลยหรอ คือตอนนี้เค้าสื่อสารกับครูผ่าน video call รู้เรื่องแล้วนะ เด็กปรับตัวเร็วมากๆ ก็เลยไม่ค่อยกังวลเรื่องเรียนออนไลน์ของลูกมากเท่าไหร่ แต่ก็อยากให้ลูกไปเรียนที่โรงเรียนมากกว่านะ (ยิ้ม)

เด็กอนุบาลที่เรียนออนไลน์ เค้าเรียนอะไรกันบ้าง?​

อันนี้พูดถึงเทอมนี้นะ เทอม 3 (หยิบมือถือมาเปิดเมล)

ที่โรงเรียนลูกผมเป็น “ระบบ IB” ไม่มั่นใจว่าจะเหมือนกันกับโรงเรียนอื่นๆมั้ยนะครับ (โชว์ตารางสอนของลูก) ครึ่งนึงมันจะเรียนวิชาหลักๆที่เรียนตามตาราง เช่นพวก วิชา PE เรียน 3 วัน ก็จะมีครูมาสอนเต้น สอนออกกำลังกายท่าต่างๆ ลูกเราก็ทำตามครูผ่านหน้าจอคอมไป

เรียนพละออนไลน์
วิธีการเรียนพละออนไลน์ของเด็กอนุบาล 1

วิชา Art, Music แล้วก็ Library  เรียนอาทิตย์ละวัน พวกนี้จะเรียนผ่าน video call แบบเห็นหน้าครู

การทดลองวิทยาศาสตร์ ให้สังเกตว่าพอวาง m&m ลงไปแล้วเทน้ำ มีอะไรเกิดขึ้น ให้ลองวาง=m&m สีต่างๆกันในรูปแบบpatternต่างๆ
การทดลองวิทยาศาสตร์ ให้สังเกตว่าพอวาง M&M ลงไปแล้วเทน้ำ มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ให้ลองวางในรูปแบบ Pattern ที่ต่างกัน

ส่วนอีกครึ่งมันจะไม่ซ้ำกัน เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่มันจะเป็นหัวข้อๆ ช่วยให้เด็กเรียนรู้หลายๆเรื่องได้พร้อมกัน มีทั้งฝึกตั้งคำถาม หาคำตอบ ตั้งสมมุติฐาน แต่ก่อนที่จะเริ่มอาทิตย์ใหม่ครูก็จะส่งหัวข้อมาให้ว่าอาทิตย์นี้จะเรียนเรื่องอะไร ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรเพิ่มเติมจาก Learning Package บ้าง ส่วนใหญ่วิชาพวกนี้เราเหมือนเรียนไปพร้อมกับลูกเลยครับ

เรียนออนไลน์สำหรับเด็กอนุบาลไม่ง่ายอย่างที่คิด
ช่วงเวลา Circle Time อันแสนวุ่นวาย

แล้วในแต่ละวันก็จะมีช่วงเวลา Circle Time ที่ให้ครูมาคุยกับนักเรียน ช่วงนี้ก็จะวุ่นวายหน่อยๆ เพราะเด็กๆก็แย่งกันพูด อารมณ์เดียวกันกับเวลาเราประชุมออนไลน์เลยครับ (ยิ้ม)

มีเครื่องมืออะไรเข้ามาช่วยในการเรียนออนไลน์บ้าง?​

ปกติจะใช้ application seasaw เป็นตัวกลางในการเรียนที่โรงเรียนนี้ พอต้องเรียนออนไลน์ก็ได้ใช้งานเต็มที่หน่อย เพราะก่อนหน้านี้เหมือนใช้เป็นแค่ messenger ระหว่างครูกับผู้ปกครองน่ะครับ ก็เป็นแอพลงมือถือนี่แหล่ะครับ

ตอนเช้า 7:50 ต้องเชคอินที่ seasaw ก่อนทุกวัน อารมณ์ตอกบัตรเข้าทำงาน ครูก็จะมี  video ปลุกใจตอนเช้าว่าวันนี้จะเรียนหัวข้ออะไรบ้าง ตารางเรียนวันนี้เป็นยังไง หลังจากนั้นก็เรียนตามตาราง ไปเสร็จเอาประมาณ 11:30 ได้ครับ บางวันช่วงเที่ยงครึ่งอาจจะมีกิจกรรมเพิ่มเติมบ้าง เวลาเลิกเรียนจริงๆก็คือบ่ายโมงตรง

เรียนออนไลน์โดยใช้ Application Seasaw เป็นเครื่องมือหลัก
เรียนออนไลน์โดยใช้ Application Seasaw เป็นเครื่องมือหลัก

ในแต่ละอาทิตย์จะมีการบ้านให้ส่งด้วย ส่วนใหญ่ก็จะต้องหาเวลาทำเพิ่มเติมช่วงบ่าย การบ้านเด็กๆก็ชอบกันนะครับ เป็นพวกการทดลองสนุก สอนให้เด็กตั้งสมมุติฐานและตั้งคำถามเป็น เราก็ส่งรูปภาพหรือวีดีโอตอบกลับไป หลังจากนั้นช่วงเย็นๆครูก็จะเริ่มทยอย feedback ผลการเรียนของวันผ่านแอพ seasaw นี่แหล่ะครับ


ในฐานะผู้ปกครองมีวิธีบริหารหรือจัดการเวลาอย่างไร?​

ถ้าเป็นเรื่องของเวลา…ง่ายๆเลยก็คือ ผู้ปกครองต้องเสียสละเวลาของตัวเองมาเรียนไปพร้อมกับลูกเลยครับ มันต้องนั่งประกบอ่ะครับ ปล่อยเค้าเรียนเองไม่ได้ เราต้องคอยรับคำสั่งจากครูด้วย อย่างที่บอกไปคือเหมือนเรากำลังเรียนอยู่น่ะครับ

อย่างของผมคือ ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายโมง ผมต้องนั่งเรียนไปพร้อมกับลูก ถึงจะเป็นเจ้าของบริษัทเอง ผมก็สามารถทำได้เพียงเชคเมลล์ ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ ช่วงบ่ายถึงจะประชุมหรือออกไปพบลูกค้าได้ครับ

อยากฝากอะไรถึงผู้อ่านบ้าง?​

ผมคงได้แต่เอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่ได้เข้ามาอ่านบทสัมภาษณ์นี้นะครับ เราต้องผ่านมันไปให้ได้ครับ

เด็กปรับตัวเร็วกว่าเราเยอะครับ เราก็อย่าไปหงุดหงิดกับการเรียนออนไลน์ให้มันมากนัก เดี๋ยวก็ได้กลับไปโรงเรียนแล้วครับ (ยิ้ม)

คุณพ่อเค้าว่าไว้อย่างงี้

ทางทีม Owl Interview ขอขอบคุณพี่เตสำหรับประสบการณ์การเรียนออนไลน์ของน้อง EY1 ด้วยนะคะ และขอเอาใจช่วยผู้ปกครองทุกๆท่านด้วยค่า ถ้าชอบอ่านประสบการณ์แบบนี้คอมเมนท์บอกเราได้นะคะ

Key Takeaways

  • โรงเรียนและครอบครัวต่างปรับตัวเข้าหากันในการเรียนแบบ Remote Learning เพราะเป็นเรื่องใหม่ทั้ง 2 ฝ่าย
  • ครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่ทำงาน Full Time จะบริหารเวลายากมากๆ กรณีที่ลูกนั้นเรียนในชั้นเล็กหรืออนุบาล ต้องเสียสละอย่างแท้จริง
  • เด็กในยุคปัจจุบันปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้เร็วมากๆ อย่ากังวลในศักยภาพในการเรียนรู้ของเด็กๆ