ในบทความนี้จะชวนน้อง ๆ และคุณพ่อคุณแม่ มาศึกษาข้อมูลที่ลึกลงไปอีกนิดเกี่ยวกับ 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศแคนาดา ซึ่งก็เป็นก็ข้อมูลที่ลูกสาวใช้เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจสมัครเข้าเรียนต่อประเทศแคนาดาค่ะ

แนะนำอ่านก่อน : ทำไมถึงเลือกให้ลูกไปเรียนต่อแคนาดา!?

จากการจัดอันดับของหลายสำนัก มหาวิทยาลัย 3 อันดับแรกของแคนาดา คือ University of Toronto, University of British Columbia และ McGill University ซึ่งกระจายตัวแยกกันอยู่ในรัฐ Ontario รัฐ British Columbia และ Quebec ตามลำดับ ทั้งหมดล้วนเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอีกด้วย ลองมาดูข้อมูลของแต่ละมหาวิทยาลัยกันนะคะว่าจะโดนใจน้อง ๆ กันมากน้อยแค่ไหน “Top 3 มหาวิทยาลัยในแคนาดา”

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย hide

University of Toronto (U of T)

University of Toronto ก่อตั้งในปี 1827 มีคณาจารย์มากกว่า 14,000 คน หลักสูตรระดับปริญญาตรี 700 หลักสูตร และนักศึกษา 93,000 คนในสามวิทยาเขต คือ St. George ซึ่งเป็นวิทยาเขตที่อยู่ใจกลางเมือง Toronto มีความร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ มีอาคารเรียนเก่าแก่ควบคู่ไปกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ใน​​ขณะที่อีก 2 วิทยาเขตคือ Scarborough และ Mississauga เป็นวิทยาเขตที่ใหม่กว่า ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเมืองตามลำดับ

วิทยาเขต Mississauga อยู่ติดกับพื้นที่สีเขียวที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ส่วนวิทยาเขต Scarborough มีโปรแกรมการเรียนที่เน้นประสบการณ์จริง (Co-op Program) “ซึ่งนักศึกษาสามารถทำงานในขณะที่เรียนไปด้วย” โดยมหาวิทยาลัยจัดโปรแกรม Co-op ให้มากกว่า 50 หลักสูตรในสาขาวิชาศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการจัดการ ช่วยให้นักศึกษาได้เรียนรู้โดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และสามารถเชื่อมโยงความรู้ทางวิชาการกับประสบการณ์ในที่ทำงานจริงได้

“มีนักศึกษาราว 1,500 คนที่ได้รับการว่าจ้างทุกปีจากองค์กรชั้นนำ” เช่น Microsoft Ernst & Young LLP หอศิลป์แห่งออนแทรีโอ และโรงพยาบาลรัฐ โดยโครงการ Co-op ของที่นี่ก่อตั้งมายาวนานที่สุดในประเทศ!

University of Toronto มีชื่อเสียงในด้านการวิจัยอินซูลิน เวชศาสตร์ฟื้นฟู และการคิดต้นด้านปัญญาประดิษฐ์ โดย U of T’s School of Cities ได้ทำการรวบรวมนักวิจัย จากหลากหลายสาขาวิชาเพื่อจัดการกับความท้าทาย ที่พื้นที่เขตเมืองกำลังเผชิญ “มหาวิทยาลัยยังมีความคิดริเริ่ม ในการสนับสนุนบริษัทสตาร์ทอัพของนักศึกษา” ที่ต้องการพัฒนาความคิดของตนผ่านหลักสูตรต่าง ๆ มากกว่า 250 หลักสูตร และในปี 2020 U of T ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของแคนาดาในการจัดอันดับโลกของ Times Higher Education ด้านการจ้างงานของผู้สำเร็จการศึกษาเป็นปีที่แปดติดต่อกัน

มหาวิทยาลัยได้ทำงานอย่างหนักเพื่อให้แน่ใจว่าผู้สำเร็จการศึกษาจะมีทั้งวุฒิการศึกษาและความสามารถหลักที่พวกเขาต้องการเพื่อให้ประสบความสำเร็จ

Meric Gertler ประธานของมหาวิทยาลัย กล่าวไว้

สาขาวิชาในมหาวิทยาลัย Totonto ที่โดดเด่น ได้แก่

  • สุขภาพโลก (Global Health) : สำรวจปัจจัยทางเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมของความท้าทายด้านสุขภาพโลก โดยนักศึกษาสามารถทำวิจัยในห้องปฏิบัติการและโรงพยาบาลในตัวเมือง Toronto ที่เป็นเครือข่ายของมหาวิทยาลัยได้
  • นิติเวช (Forensics) : โปรแกรมนี้เปิดสอนที่วิทยาเขต Mississauga โดยทางมหาวิทยาลัยสร้างบ้านและอาคารเพื่อเป็นฉากอาชญากรรมจำลองไว้เพื่อการศึกษาโดยเฉพาะ
  • บริหารธุรกิจ : โปรแกรมในวิทยาเขต Scarborough สอนเศรษฐศาสตร์และการจัดการ โดยผนวกการฝึกงานจริงในองค์กรต่าง ๆ โดยนักศึกษาได้รับค่าจ้าง

University of British Columbia (UBC)

UBC ก่อตั้งในปี 1908 มหาวิทยาลัยในแคนาดาแห่งนี้มี 2 วิทยาเขตคือ Vancouver และ Okanagan ที่กว้างขวางและมีชื่อเสียงระดับนานาชาติในด้านการวิจัยและหลักสูตรบัณฑิตศึกษา ทั้งสองวิทยาเขตมีนักศึกษารวมกันกว่า 65,000 คน จากแคนาดาและจาก 140 ประเทศทั่วโลก

UBC มีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ใกล้ชิดอบอุ่น โดยการเพิ่มพื้นที่การเรียนรู้ ที่ออกแบบ “ให้นักศึกษาเป็นศูนย์กลาง และสร้างความสัมพันธ์กับเทศบาลและชุมชนบริเวณใกล้เคียง” ในฐานะหุ้นส่วนในความพยายามนี้ของมหาวิทยาลัย เมื่อสองปีที่แล้ว UBC จึงได้เปิด Exchange Residence จำนวน 650 เตียง ซึ่งรวมถึงห้องชุดนาโนขนาดเล็กที่ราคาไม่แพงจำนวน 71 ห้องไว้ให้บริการนักศึกษาอีกด้วย

UBC ขึ้นชื่อเรื่องวิทยาเขตที่มีธรรมชาติสวยงาม และทั้งสองวิทยาเขตมักมีการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและกิจกรรมสันทนาการมากมาย นักวิชาการ อาจารย์และนักศึกษาของ UBC ได้รับทุนระดับแนวหน้าของโลก เช่น Rhodes Scholars  และ 3M National Teaching Fellowships

หนึ่งในศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงและทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศ คือ “Justin Trudeau นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศแคนาดา” ประธานมหาวิทยาลัย Santa Ono ได้เคยกล่าวไว้ว่า “นักศึกษาของ UBC อยู่ในกลุ่มที่เก่งที่สุดในโลกและถูกท้าทายโดยคณาจารย์ที่มีความโดดเด่นในการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาอย่างสูงสุด ศิษย์เก่าของเราประมาณ 350,000 คน เป็นผู้มีบทบาทในระดับสากลที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดีขึ้น”

สาขาวิชาในมหาวิทยาลัย British Columbia ที่โดดเด่น ได้แก่

  • ปริญญาตรีและโทด้านบริหารธุรกิจ (Dual degree) : นักศึกษาในโครงการนี้สามารถเรียนควบรวมการศึกษาระดับปริญญาตรีจากหลากหลายสาขาวิชา เข้ากับปริญญาโทด้านการบริหารจัดการ และสามารถเรียนจบหลักสูตรภายในเวลาเพียงสี่ปีครึ่งเท่านั้น ซึ่งหลักสูตรนี้ให้โอกาสการฝึกงานในโครงการจริงกับภาคธุรกิจของประเทศแคนาดาอีกด้วย
  • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านเศรษฐศาสตร์ชีวภาพป่าไม้ (Forest Bioeconomy Sciences and Technology) : เป็นสาขาวิชาที่เตรียมความพร้อมสำหรับนักศึกษาที่มีความสนใจในการทำงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจปลอดคาร์บอน ซึ่งจะมีการเรียนการสอนในเรื่องการพัฒนาวัสดุและพลังงานหมุนเวียน และกลยุทธ์การใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน รวมไปถึงวิธีการทางสถิติ การบริหารโครงการ ทักษะทางธุรกิจและความเป็นผู้นำในด้านนี้อีกด้วย
  • First Nations and Endangered Languages : ภาษาชนเผ่าพื้นเมือง ใน British Columbia มีถึง 34 ภาษา และยังมีอีกหลายภาษาที่ใกล้สูญพันธุ์ โปรแกรมนี้มุ่งเน้นไปที่การบันทึกทางเอกสาร การอนุรักษ์ การฟื้นฟู และการนำภาษาและความรู้ของชนพื้นเมือง ที่กำลังจะสูญหายกลับมาใช้อีกครั้ง

McGill University

McGill University ก่อตั้งในปี 1821 เป็นแหล่งรวมนักศึกษาเกือบ 40,000 คน จากทั่วโลกที่มีพลวัตสูง คุณครูใหญ่ Suzanne Fortier เคยกล่าวไว้ว่า “ที่ McGill เราเห็นความแข็งแกร่งในความหลากหลาย และเราภูมิใจที่ได้ต้อนรับนักศึกษาที่มีความสามารถจากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก”

“McGill ได้ผลิตผู้ได้รับรางวัลโนเบลมากกว่ามหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในแคนาดา” มหาวิทยาลัยในแคนาดาแห่งนี้มีคณาจารย์และผู้สำเร็จการศึกษาได้รับรางวัลโนเบล 12 รางวัลจากการบุกเบิกด้านต่าง ๆ เช่น เศรษฐศาสตร์ กัมมันตภาพรังสี และฟิชชัน ในฐานะมหาวิทยาลัยที่เน้นการวิจัย McGill สร้างพันธมิตรกับศูนย์วิจัยต่าง ๆ และเครือข่ายมากกว่า 100 แห่งในแคนาดา

สถานที่ตั้งของวิทยาเขตหลักของ McGill อยู่ระหว่าง Mount Royal Park และตัวเมืองมอนทรีออลทำให้นักศึกษามีความสะดวกในการออกไปที่ตัวเมือง ซึ่งจะมีทั้งหอศิลป์และเทศกาลต่าง ๆ ให้ไปเยี่ยมชม นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านคาแฟ่หลายร้อยแห่งซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก “และค่าเช่าที่พักโดยทั่วไปถูกกว่าเมืองใหญ่อื่น ๆ ในแคนาดา” โดยวิทยาเขต Macdonald ที่มีขนาดเล็กกว่า ตั้งอยู่บนทำเลที่สวยงามบนเกาะมอนทรีออล ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกประมาณ 35 กม. เป็นที่ตั้งของโครงการด้านการเกษตร วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม และโภชนาการ

นอกเหนือจากโปรแกรมช่วยเหลือเพื่อนและการให้คำปรึกษาที่มีอยู่แล้ว McGill ยังมีโปรแกรม “บัดดี้” สำหรับนักศึกษาต่างชาติ  และเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว McGill ได้เปิดตัวโปรแกรม First Friend เพื่อช่วยเหลือนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่จำเป็นต้องเข้าเรียนแบบออนไลน์ อันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19 โปรแกรมนี้ นักศึกษาใหม่จะได้จับคู่กันตาม time zone และสาขาวิชาที่เรียนเพื่อช่วยเหลือกันในด้านการเรียน

สาขาวิชาในมหาวิทยาลัย McGill ที่โดดเด่น ได้แก่

  • วิศวกรรมซอฟต์แวร์ (Software Engineering) : นักศึกษาจะได้รับประสบการณ์ตรงและเตรียมพร้อมสำหรับงานในสาขานี้ เช่น การพัฒนาวิดีโอเกม ระบบอัตโนมัติของหุ่นยนต์ และการออกแบบซอฟต์แวร์นำทางบนเครื่องบิน เป็นต้น
  • ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี (Technological Entrepreneurship) : สาขาวิชานี้สำรวจวิธีการสร้างและการประกอบกิจการใหม่ให้ประสบความสำเร็จ ทั้งที่เป็นบริษัทแสวงหากำไร กิจการเพื่อสังคม และการริเริ่มในการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneur) อีกด้วย
  • นาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology) : สาขาวิชานี้รวมหลักสูตรจากคณะวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และการแพทย์เข้าด้วยกัน เพื่อองค์ความรู้เกี่ยวกับวัสดุนาโนที่นำไปใช้ในด้านต่าง ๆ เช่น เภสัชวิทยาและอิเล็กทรอนิกส์ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และสังคมจากการนำไปใช้อีกด้วย

มหาวิทยาลัยในแคนาดาจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ

แคนาดาถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักศึกษาต่างชาติ มี 3 มหาวิทยาลัยเด่นที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับสากล กระจายตัวแยกกันอยู่ในรัฐ Ontario, British Columbia และ Quebec ตามลำดับ แต่ละมหาวิทยาลัยมีจุดเด่นแตกต่างกันไป Toronto และ Vancouver เป็นเมืองที่เป็นรู้จักมากที่สุดสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ U of T และ UBC ลูกสาวจึงได้ตัดสินใจเลือกส่งใบสมัครกับ 2 มหาวิทยาลัยนี้ ด้วยเหตุผลเรื่องชื่อเสียงในสาขาวิชาศิลปศาสตร์ที่ตั้งใจจะไปเรียน และคุณภาพการใช้ชีวิตในสองเมืองดังกล่าว รวมถึงโอกาสในการทำงานระหว่างเรียนและหลังเรียนจบ เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ที่มีการจ้างงานสูงมากอีกด้วย

ถ้าชอบบทความแบบนี้พวกเราอยากให้น้อง ๆ และผู้ปกครองช่วยกันแชร์เพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับทุก ๆ คนที่กำลังมองหาข้อมูลของมหาวิทยาลัยในแคนาดานะคะ แล้วรอติดตามบทความต่อไปได้ที่ Owl Campus นะคะ.