“ประเทศอังกฤษ” ดินแดนยอดฮิตตลอดกาลในด้านการศึกษาต่อยังต่างประเทศ ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยเรื่องคุณภาพของหลักสูตร ระบบการเรียนการสอน ตลอดจนความเจริญรุ่งเรืองและความหลากวัฒนธรรม ล้วนแต่เป็นเหตุผลหลักที่มักดึงดูดเยาวชนในแต่ละชาติ ให้มุ่งหน้าเดินทางไปเล่าเรียนยังสหราชอาณาจักรแห่งนี้นี่เอง

แต่การจะไปเล่าเรียนยังประเทศอังกฤษได้ ตามรูปแบบขั้นตอนที่สำคัญ เราจำเป็นต้องวางแผนแนวทางการศึกษาเสมอ เช่นเดียวกับการเดินทางไปยังประเทศอื่น ๆ ด้วยปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะ การยื่นขอวีซ่า – การเตรียมเอกสาร – การเลือกสถาบันการศึกษา – เมืองที่อาศัย และที่จะขาดไปไม่ได้เลย นั่นก็คือ การคำนึง-คำนวณ ถึง “ค่าครองชีพ” ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ค่าครองชีพคือหนึ่งสิ่งที่นักเรียนต้องเตรียมตัวก่อนเดินทางไปเรียนต่อยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เพราะนั่นคือการวางแผนที่จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หากขาดไปก็ไม่เพียงพอและอาจส่งผลต่อความลำบากในชั่วขณะได้ แล้วค่าครองชีพที่อังกฤษเป็นอย่างไร? แพงกว่าความเป็นอยู่ที่ไทยมากไหมนะ?

“ค่าเงิน” ประเทศอังกฤษเป็นอย่างไร ?

ก่อนอื่น เราจำเป็นต้องรู้จักหน่วยเงินตราของประเทศอังกฤษเป็นอันดับแรก “ปอนด์” คือสกุลเงินที่เรามักคุ้นหูและหลายคนนิยมพูดแทนค่าเงินของประเทศอังกฤษมาโดยตลอด ซึ่ง “ปอนด์” มีชื่อเต็มอย่างเป็นทางการว่า “ปอนด์สเตอร์ลิง” มีสัญลักษณ์แทนสกุลเงินดังนี้ “£” นอกจากนั้น ปอนด์ ยังเป็นสกุลเงินที่ไม่ได้ถูกใช้แค่ประเทศอังกฤษเท่านั้น เพราะปอนด์สเตอร์ลิง เป็นค่าเงินที่ถูกใช้ภายในสหราชอาณาจักร ประกอบไปด้วย เวลส์ และ สกอตแลนด์ รวมทั้งภูมิภาคอื่น ๆ อย่าง หมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช และ เจอร์ซีย์ ก็ใช้ค่าเงินปอนด์เช่นเดียวกัน ปัจจุบัน ปอนด์มีค่าเงินสูงกว่าประเทศไทยค่อนข้างมาก โดย 1 ปอนด์สเตอร์ลิง จะคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 46 บาท

เนื่องจากค่าเงินที่สูงกว่าไทยค่อนข้างมาก ส่งผลให้ค่าครองชีพภายในประเทศอังกฤษย่อมสูงกว่าประเทศไทยตามไปด้วย บนเว็บไซต์ numbeo.com แหล่งรวบรวมสถิติค่าครองชีพจากทั่วโลก ได้เผยสถิติอัตราค่าครองชีพเฉลี่ยของประเทศอังกฤษเอาไว้ว่า “มีอัตราสูงกว่าประเทศไทยถึง 62.96%” ส่วนอัตราค่าเช่าที่อยู่อาศัย มีแนวโน้มสูงกว่าไทยถึง 119.99% เลยทีเดียว นอกจากนั้น ยังได้มีการคำนวณโดยเฉลี่ยว่า อัตราค่าครองชีพรายเดือน ณ ประเทศอังกฤษ จะตกอยู่ที่ประมาณ 651.42 ปอนด์ หรือประมาณ 30,000 บาทต่อคน โดยยังไม่รวมกับค่าเช่าที่อยู่อาศัย.

ทั้งนี้ทั้งนั้น ค่าครองชีพในฉบับนักเรียน จะยังคงขั้นอยู่กับตัวแปรอีกหลายส่วน เช่น เมืองที่เลือกอาศัย – การเลือกซื้อสินค้า – นิสัยการใช้จ่ายของแต่ละบุคคล – ความใกล้/ไกลในการเดินทาง หรือจะสิ่งของนันทนาการระหว่างการใช้ชีวิต

ค่าใช้จ่าย 5 อย่างที่ต้องคำนึงถึง ก่อนไปเรียนต่อยังประเทศอังกฤษ!

1. ค่าเล่าเรียน

ถือเป็นประเด็นสำคัญในเรื่องค่าใช้จ่ายเลยก็ว่าได้ สำหรับค่าเล่าเรียน หรือ ค่าเทอมในการศึกษา เป็นอีกตัวแปรที่ทั้งพ่อแม่-ผู้ปกครอง และตัวนักศึกษาเองต้องรู้เอาไว้ในเบื้องต้น เงื่อนไขการชำระ รายเทอม หรือ รายปี ทั้งนี้ จุดประสงค์การเรียนในแต่ระดับที่ต่างกัน ก็ย่อมมีอัตราค่าใช้จ่ายที่ต่างกันไปด้วย เช่น

การเรียนภาษา

ในแต่ละปี เด็ก ๆ จากทุกมุมโลกได้เดินทางมายังอังกฤษเพื่อเล่าเรียนภาษาเป็นการเฉพาะ ด้วยความเป็นดินแดนเจ้าของภาษา และมีสถาบันสอนรายวิชาภาษาอังกฤษอย่างแพร่หลาย “การเรียนต่อในด้านนี้จึงจะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก” ขึ้นอยู่กับสถาบันและระยะเวลาของคอร์สเรียน อัตราค่าใช้จ่ายจะสามารถเริ่มต้นที่ 70 – 100 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 3,200 – 4,600 บาท และสามารถพุ่งขึ้นไปแตะ 1,300 ปอนด์ หรือประมาณ 60,000 บาทได้ หากเป็นการสอนที่ละเอียดและลึกมากขึ้น

ระดับปริญญาตรี

โดยส่วนใหญ่ของการเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ มักใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ปี มีหลักสูตรให้เลือกสรรเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ อัตราค่าเทอมรายปีสำหรับนักเรียนต่างชาติ เฉลี่ยอยู่ที่ 12,000 ปอนด์ หรือประมาณ 554,000 บาท หากคิดในอัตราตลอดหลักสูตร มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 36,000 ปอนด์ต่อหลักสูตร หรือประมาณ 1.6 ล้านบาท ในจำนวนเหล่านี้ยังไม่นับรวมรายวิชาเฉพาะทางที่อัตราค่าเทอมจะมีแนวโน้มสูงขึ้นไปอีก

2. ค่าอาหาร

ประเด็นรองที่จะไม่ควรพลาด นั่นก็คือ ค่าอุปโภคบริโภค ส่วนสำคัญต่อการใช้ชีวิต ในประเทศอังกฤษ อาหารการกินก็ไม่ได้ดูแปลกไปจากชนชาติตะวันตกอื่น ๆ รวมถึงเมนูอาหารสำเร็จรูป หรือ “บรรดาอาหารฟาสต์ฟู้ด จึงคล้ายคลึงกับเหล่าเฟรนไชส์ในไทยไม่น้อย” จะต่างกันก็ที่ราคา ซึ่งแปรผันตามอัตราค่าครองชีพ ยกตัวอย่างเช่น มื้ออาหารกลางวันรวมเครื่องดื่ม แบบปกติ จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 12 ปอนด์ หรือประมาณ 550 บาท แต่หากเป็นมื้ออาหารในภัตตาคาร ยกระดับมาอีกหน่อย จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 50 ปอนด์ต่อ 2 คน หรือประมาณ 2,300 บาท ในขณะที่ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังอย่าง แมคโดนัล มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 6 – 7 ปอนด์เท่านั้น หรือประมาณ 270 – 320 บาท

มื้ออาหารเหล่านี้ จึงเป็นทางเลือกสำหรับนักเรียนต่างชาติได้ดีในการอาศัยอยู่ยังประเทศอังกฤษ “และค่าครองชีพที่อังกฤษ ในกรณีที่ทำอาหารทานเองจะเป็นอย่างไร!?” ราคาเฉลี่ยสำหรับวัตถุดิบประกอบอาหาร และอาหารนอกเหนือจากมื้อปรุงสำเร็จอื่น ๆ มีตัวอย่างดังนี้ค่ะ

  • นม 1 ลิตร = 0.92 ปอนด์ หรือประมาณ 42 บาท
  • น้ำดื่ม 1.5 ลิตร / 1 ขวด = 0.96 ปอนด์ หรือประมาณ 44 บาท
  • ไข่ 1 โหล = 1.94 ปอนด์ หรือประมาณ 89 บาท
  • เนื้อไก่ 1 กก. = 5.53 ปอนด์ หรือประมาณ 255 บาท
  • กล้วย 1 กก. = 1.09 ปอนด์ หรือประมาณ 50 บาท
  • ข้าวสาร 1 กก. = 2 ปอนด์ หรือประมาณ 92 บาท

3. ค่าที่พัก

อีกปัจจัย 4 ที่มีความสำคัญถัดจากด้านอาหารการกิน นั่นก็คือ “ที่อยู่อาศัย” ตัวแปรด้านนี้เองที่จะส่งผลโดยตรงต่อค่าใช้จ่ายรายเดือน ประเทศอังกฤษ มีประเภทที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ เพื่อรองรับแก่นักเรียน-นักศึกษาต่างชาติ รวมทั้งผู้เดินทางจากนานาประเทศ ได้แก่

  • ที่พักมหาวิทยาลัย : ในกรุงลอนดอน หอพักของสถาบันจะมีอัตราค่าใช้จ่ายที่สูงเป็นพิเศษ อยู่ที่ 727 ปอนด์ต่อเดือน หรือประมาณ 33,000 บาท ในขณะที่เมืองอื่น มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 515 ปอนด์ต่อเดือนเท่านั้น หรือประมาณ 23,000 บาท
  • หอพักส่วนตัว : ส่วนใหญ่ มีอัตราค่าเช่ารายเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 320 – 530 ปอนด์ หรือประมาณ 14,000 – 24,000 บาท ขณะที่ในเขตลอนดอน หอพักส่วนตัวจะมีอัตราค่าบริการรายเดือนที่เพิ่มมากขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 848 ปอนด์ต่อเดือน หรือประมาณ 39,000 บาท

ทั้งนี้ ในบางที่พักอาจมีการรวมค่าบริการ น้ำ – ไฟ – แก๊ส ร่วมด้วยกับค่าที่พัก แต่ในบางสถานที่อาจให้ผู้อาศัยชำระด้วยตนเอง ในกรณีนี้นักเรียน-นักศึกษา หรือผู้ปกครอง จำเป็นต้องรอบคอบในเรื่องที่พักเป็นอย่างมาก

แนะนำอ่านต่อ : มหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ แหล่งยอดฮิต – ขึ้นชื่อสำหรับเรียนต่อปริญญาตรี

4. ค่าเดินทางและการเดินทางในอังกฤษ

หากนักเรียน-นักศึกษาคนใด ที่อาศัยอยู่ในที่พักของสถาบัน เรื่องค่าเดินทางอาจไม่ส่งผลต่อค่าครองชีพที่อังกฤษสักเท่าไหร่ แต่หากเมื่อใด ที่เราจำเป็นต้องใช้วิธีการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ การคำนวณเรื่องค่าใช้จ่าย จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เราจัดการกับค่าครองชีพได้เป็นอย่างดี

ในอังกฤษจะมีบริการขนส่งสาธารณะหลัก คือ “รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า Tube” เป็นช่องทางที่สะดวกสบาย เมื่อเราต้องการไปยังสถานการณ์ที่ต่าง ๆ ในเขตเมือง แต่ในบริบทความสะดวกสบายก็ต้องแลกมาด้วยอัตราค่าโดยสารที่อาจสูงไปสักหน่อย สำหรับนักศึกษาหรือนักเรียนเต็มเวลา มักจะมีส่วนลดในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอีกด้วย

ค่าครองชีพที่อังกฤษ ค่าครองชีพในอังกฤษ ค่าใช้จ่าย 5 อย่างที่ต้องคำนึงถึง ก่อนไปเรียนต่อยังประเทศอังกฤษ!
รถไฟฟ้าใต้ดินและรถบัส เป็นทางเลือกในการเดินทางหลักของนักเรียนนักศึกษาในประเทศอังกฤษ

“รถบัส” อีกหนึ่งขนส่งสาธารณะยอดนิยม สามารถใช้บริการได้ตามเมืองต่าง ๆ มีระบบบัตรเดินทางที่เรียกว่า Oyster Card ซึ่งจะมีอัตราค่าบริการตั้งแต่ 2.4 – 6 ปอนด์ หรือประมาณ 110 – 277 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง

และอีกช่องทางยอดฮิตในหมู่เด็ก ๆ นั่นก็คือ “จักรยาน” การปั่นจักรยานในการเดินทาง นอกจะเป็นวิธีที่ประหยัด – เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้วนั้น ยังถือเป็นการออกกำลังหายไปในตัวได้อีกต่างหาก สำหรับนักเรียน-นักศึกษา บางสถาบันจะมีบริการจักรยานให้เช่า หรือ หากอยากใช้เป็นครั้งคราว ในเขตเมือง จะมีบริการให้เช่าจักรยานอยู่เป็นจุด ๆ สะดวกและไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อมาเป็นของตัวเอง

ทั้งนี้ ประเทศอังกฤษ ยังมีอัตราค่าบริการขนส่งสาธารณะ แบบทั้ง รายครั้งและรายเดือน ดังนี้

  • ตั๋วเดินทาง เที่ยวเดียว = 1.7 – 4 ปอนด์ หรือประมาณ 78 – 184 บาท
  • ตั๋วเดินทาง รายเดือน = 49 – 150 ปอนด์ หรือประมาณ 2,200 – 6,900 บาท
  • ค่าบริการแท็กซี่ จะมีค่าบริการเริ่มที่ 1.8 – 4.5 ปอนด์ หรือประมาณ 83 – 207 บาท

5. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ

กิจกรรมนันทนาการ ไม่ว่าจะ ดูหนัง – ฟังเพลง หรือแม้แต่ชอปปิ้ง อาจเป็นกิจกรรมที่ไม่ได้จำเป็นมากไปกว่า 4 ประเภทแรก แต่ถือเป็นการใช้จ่ายไปกับการพักผ่อนหย่อนใจหลังการเรียนได้เป็นอย่างดี ค่าใช้จ่ายในประเภทนี้ จึงส่งผลโดยตรงในด้านจิตใจที่ผู้ปกครองไม่ควรละเลยต่อการวางแผนของบุตรหลาน ซึ่งอัตราค่าบริการกิจกรรมนันทนาการและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ในอังกฤษ มีดังต่อไปนี้

  • ตั๋วดูหนัง = 10.12 ปอนด์ หรือประมาณ 467 บาท
  • ตั๋วดูคอนเสิร์ต หรือ โรงละคร = 50.57 ปอนด์ หรือประมาณ 2,300 บาท
  • ค่าบริการ Netflix = เริ่มต้น 5.99 ปอนด์ หรือประมาณ 276 บาทต่อเดือน
  • ค่าบริการอินเทอร์เน็ต = 40 ปอนด์ต่อเดือน หรือประมาณ 1,800 บาท

เป็นอย่างไรกันบ้าง!? เมื่อน้อง ๆ และผู้ปกครองทราบถึงค่าใชจ่ายในการไปเรียนต่อ และค่าครองชีพที่อังกฤษแล้ว นอกจากจะต้องเตรียมตัวเรื่องภาษาให้พร้อม เรื่องของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็จำเป็นจะต้องรอบครอบและระมัดระวังเช่นกันนะคะ นอกจากเรื่องค่าครองชีพที่อังกฤษแล้ว เรายังมีบทความอื่น ๆ แนะนำ เพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนที่น้อง ๆ จะมุ่งหน้าสู่ประเทศอังกฤษอีกด้วย

บทความแนะนำ : 10 มหาวิทยาลัยยอดฮิตและได้รับการยอมรับในลอนดอน