หากพูดถึงทุนการศึกษาในญี่ปุ่น น้อง ๆ หลายคนอาจจะนึกไปถึง ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (MEXT) หรือทุนมงใช่ไหมคะ แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า ทุนนี้เป็นทุนที่ไม่ใช่ว่าจะได้กันง่าย ๆ เพราะมีขั้นตอนการคัดนักศึกษาแบบหฤโหด และคู่แข่งยังเยอะอีกด้วย
แต่น้อง ๆ อย่าเพิ่งท้อใจและคิดว่าโอกาสมีริบหรี่นะคะ เพราะที่จริงแล้ว ทุนศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่นยังมีอีกหลายทุนให้ได้ลองไปสมัครกัน มีทั้งทุนจากมหาวิทยาลัยเอง และทุนที่เราต้องสมัครเอง หลังจากสอบผ่านมหาวิทยาลัยแล้ว และทุนเรียนต่อญี่ปุ่นที่เราจะหยิบยกมาแนะนำกันในวันนี้คือ จะมีอะไรบ้าง? ตามมาดูกันเลย!!
Ritsumeikan Asia Pacific University
มหาวิทยาลัย Ritsumeikan Asia Pacific หรือ APU เป็นมหาวิทยาลัยนานาชาติที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชูของญี่ปุ่น มีนักศึกษากว่า 5,000 คน จาก 130 ประเทศทั่วโลก ภายใต้บรรยากาศการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง เพื่อปลูกฝังให้นักศึกษามีทักษะในการเผชิญกับปัญหาในสังคมโลกปัจจุบัน
มหาวิทยาลัย APU ยังได้รับคัดเลือกจากรัฐบาลญี่ปุ่นในปี 2014 ให้เป็น “มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกของประเทศญี่ปุ่น”

หลักสูตรที่เปิดสอน
ปริญญาตรี (International Undergraduate Programs) เรียนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นควบคู่กันไป และสามารถเลือกเรียนวิชาข้ามสาขาได้ ประกอบไปด้วย 2 คณะ
- Asia Pacific Studies (APS)
- International Management (APM)
ข้อมูลระดับปริญญาตรี : admissions.apu.ac.jp
ปริญญาโทและเอก (Graduate Schools) เรียนเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลักโดยสามารถเรียนภาษาญี่ปุ่นเสริมได้ประกอบด้วย 2 คณะ
- Graduate School of Asia Pacific Studies (GSA)
- Master of Science in Asia Pacific Studies
- Master of Science in International Cooperation Policy
- Doctor of Philosophy in Asia Pacific Studies
- Graduate School of Management
- Master of Business Administration
ข้อมูลระดับบัณฑิตศึกษา : admissions.apu.ac.jp/graduate
ทุนการศึกษา
ค่าเล่าเรียนใน มหาวิทยาลัย Ritsumeikan Asia Pacific หรือ APU โดยปกติแล้วจะมีตัวเลขประมาณนี้ค่ะ
- ปริญญาตรี จะอยู่ที่ 1,300,000 – 1,500,000 เยนต่อปี (ประมาณ 374,740 – 432,392 บาท)
- ปริญญาโทอยู่ที่ 2,800,000 – 3,800,000 เยนตลอดหลักสูตร (ประมาณ 807,132 – 1,095,394 บาท)
- ปริญญาเอกอยู่ที่ 4,300,000 เยนตลอดหลักสูตร (ประมาณ 1,239,524 บาท)
เห็นตัวเลขแล้วอย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ เพราะหากเราสอบเข้าได้คะแนนสูง ก็มีโอกาสได้รับส่วนลดค่าเล่าเรียนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ 30% ไปจนถึง 100% แต่จากประสบการณ์ที่เคยสอบติด พบว่ามีผู้ที่ไม่ได้รับส่วนลด แต่ได้เป็นนักศึกษาของ APU ก็มีเหมือนกันค่ะ และก็ยังมีทุนจากองค์กรนอกมหาวิทยาลัยให้ยื่นขอได้อีกด้วย
ขั้นตอนการสมัครขอทุนการศึกษา
- สมัครผ่านเว็ปไซต์ของ Ritsumeikan Asia Pacific University โดยตรง
- อัปโหลดเอกสารและสอบสัมภาษณ์ออนไลน์
- ยื่นเอกสารเพิ่มเติมกรณีขอทุนจากองค์กรภายนอกมหาวิทยาลัย
- รอข่าวดีจากการประกาศผลและทุนการศึกษาที่ได้รับ
สาขาที่น่าสนใจ
หากพูดถึงสาขาที่เด่น ๆ ของ APU คงไม่พูดถึง “สาขาด้านการบริหารธุรกิจ” ไม่ได้ เพราะทางมหาวิทยาลัยได้รับรองมาตรฐานการศึกษาทางด้านบริหารธุรกิจ เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น โดยสถาบัน AACSB เมื่อปี 2016 ซึ่งเป็นองค์กรของสหรัฐอเมริกา ที่จะรับรองสถาบันด้านการบริหารธุรกิจจากทั่วโลก โดยหลักสูตรจะแบ่งเป็น 4 สาขา ดังนี้
- Accounting and Finance
- Marketing and Management
- Innovation and Operations Management
- Japanese Management
แต่ละหลักสูตรจะเน้นให้นักศึกษามองในมุมที่กว้างขึ้น เพื่อให้ก้าวไปเป็นผู้นำด้านธุรกิจระดับโลก โดยจะเปิดรับสมัครนักศึกษาต่างชาติในระบบออนไลน์ ตั้งแต่เดือนกันยายนของทุกปี เพื่อศึกษาต่อในเดือนเมษายนหรือเดือนกันยายนของปีถัดไป โดยการสมัครจะมีหลายรูปแบบ ระยะเวลารับสมัครจะแตกต่างกันไป ดังนั้นน้อง ๆ ต้องติดตามข่าวสาร ทุนเรียนต่อญี่ปุ่น กับทางมหาวิทยาลัยให้ดี
เว็บไซต์ของสาขาบริหารธุรกิจ : admissions.apu.ac.jp/graduate/academics/mba
ADB-Japan Scholarship Program
ทุนต่อมา เป็นทุนของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (Asian Development Bank) หรือ ADB จับมือกับรัฐบาลญี่ปุ่น ทุนนี้จะมอบให้นักศึกษาต่างชาติ เพื่อไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทในต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ เป็นต้น ทุนนี้เป็นทุนที่น่าสนใจมากตรงที่เป็นทุนเต็มจำนวนแบบ “ฟูลคอร์ส” เพราะให้ค่าเล่าเรียน ค่าครองชีพ ค่าหอพัก ค่าตั๋วเครื่องบิน รวมถึงค่าหนังสือเรียน
ทุนเรียนต่อญี่ปุ่น ADB นี้จะให้กับนักศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เศรษฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ การพัฒนา กฏหมายและนโยบายสาธารณะ โดยเงื่อนไขของผู้สมัครมีดังนี้
- ต้องเป็นพลเมืองของประเทศสมาชิก ADB และเป็นประเทศที่มีสิทธิ์ได้รับทุนสนับสนุนเพื่อการพัฒนาจากประเทศญี่ปุ่น (ประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น)
- ต้องได้รับการตอบรับให้เข้าเรียนจาก 25 สถาบันที่ ADB กำหนด
- จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาข้างต้น
- อายุไม่เกิน 35 ปี
ทุนการศึกษา
วิธีการสมัครทุน ADB น้อง ๆ จะต้องได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยที่จะไปเรียนต่อแล้วเท่านั้น โดยมีขั้นตอนดังนี้
- สมัครเข้าศึกษาต่อผ่านมหาวิทยาลัยและแจ้งเจตจำนงค์ว่าต้องการขอรับทุน ADB
- กรอกใบสมัครสำหรับทุน ADB และส่งเอกสารการสมัครต่าง ๆ ให้มหาวิทยาลัยพิจารณา
- หลังจากมหาวิทยาลัยตอบรับเข้าเรียน ทางมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้ส่งรายชื่อไปยัง ADB
- ADB พิจารณามูลค่าของทุนตามความเหมาะสมและประกาศผล
สำหรับมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นที่เปิดรับสมัครทุนนี้ มีทั้งหมด 14 มหาวิทยาลัย ทั้งมหาวิทยาลัยโตเกียว มหาวิทยาลัยนาโกย่า มหาวิทยาลัยเกียวโต เป็นต้น
โดยแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีเวลาและสาขาที่เปิดรับสมัครที่แตกต่างกัน รวมถึงยังมีมหาวิทยาลัยนานาชาติ เช่น Asia Pacific Ritsumeikan University อีกด้วย ต้องลองติดตามตามหน้าเว็ปไซต์ของมหาวิทยาลัย หรือเว็ปไซต์ของ ADB ค่ะ
เว็ปไซต์ข้อมูลทุน ADB : The ADB-Japan Scholarship Program (JSP)
สาขาที่น่าสนใจ
หากใครสนใจอยากศึกษาทางด้านเศรษฐศาสตร์ในญี่ปุ่น เราขอแนะนำมหาวิทยาลัยเคโอ Keio University เพราะมหาวิทยาลัยนี้เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงอย่างมาก โดยเฉพาะทางด้านการแพทย์และเศรษฐศาสตร์ ซึ่งมีนักการเมืองและนักวิชาการผู้มีชื่อเสียงมากมาย จบการศึกษาจากที่นี่ อีกทั้งยังเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย

คณะเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเคโอ ถือเป็นหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผลิตบุคคลากรแนวหน้าทั้งในระดับประเทศและระดับโลก อีกทั้งยังมีหลักสูตรภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า PEARL และ PCP ซึ่งมุ่งหวังให้นักศึกษาได้มีโอกาสแสดงศักยภาพในระดับสากล ทางมหาวิทยาลัยจะเปิดรับสมัครในเดือนพฤษภาคมของทุกปี เพื่อเข้าศึกษาในเดือนเมษายนหรือกันยายนของปีถัดไป
เว็ปไซต์ของหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ : Graduate School of Economics
Yoshida Scholarship Foundation (YSF)
“ทุนเรียนต่อญี่ปุ่น” สำหรับนักศึกษาต่างชาติ ระดับปริญญาโทและเอกในประเทศญี่ปุ่น โดยมูลนิธิทุนการศึกษาโยชิดะ (Yoshida Scholarship Foundation) หรือ YSF สาขาที่สามารถสมัครขอรับทุนได้คือวิทยาศาสตร์ (Natural Science) โดยจะเฟ้นหานักศึกษาที่มีความเป็นผู้นำ มีความสามารถในการวิจัยระดับสูงและสามารถนำงานวิจัยนั้นไปต่อยอดสู่สังคมได้
จำนวนเงินทุนการศึกษา YSF ครอบคลุมค่าเล่าเรียน ค่าครองชีพ 200,000 เยนต่อเดือน (ประมาณ 60,000 บาท) ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศญี่ปุ่น โดยเงื่อนไขของผู้ที่สามารถสมัครรับทุนการศึกษาได้มีดังนี้
- ต้องเป็นพลเมืองและจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ เอเชียตะวันตก เอเชียกลาง ทวีปแอฟริกา และมองโกเลีย
- ต้องได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นสาขาวิทยาศาสตร์
- นักศึกษาระดับปริญญาโทต้องมีอายุไม่เกิน 30 ปี ระดับปริญญาเอกต้องมีอายุไม่เกิน 35 ปี
ทุนการศึกษา
สำหรับวิธีการสมัครทุนการศึกษาจะมีขั้นตอนดังนี้
- สมัครเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น และได้รับการตอบรับเข้าศึกษา
- หลังจากทราบผลแล้วให้ยื่นสมัครทุนผ่านมหาวิทยาลัย โดยต้องแนบเอกสาร ดังนี้ (ใบสมัครทุน YSF, เอกสารแนะนำตัวจากอาจารย์มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น, เอกสารแนะนำตัวจากมหาวิทยาลัยประเทศไทย, สำเนาจดหมายตอบรับการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยประเทศญี่ปุ่น)
- ทาง YSF ตรวจสอบเอกสารและประกาศผลทุนการศึกษา
มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมทุนนี้ เช่น มหาวิทยาลัยโตเกียว มหาวิทยาลัยนาโกย่า มหาวิทยาลัยเกียวโต มหาวิทยาลัยเคโอ เป็นต้น แต่ละมหาวิทยาลัยจะมีกำหนดรับสมัครไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรติดตามข่าวสารให้ดีค่ะ
เว็ปไซต์ข้อมูลทุน YSF : Yoshida Scholarship Foundation
สาขาที่น่าสนใจ
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจในสาขา Natural Science มหาวิทยาลัยเกียวโต ก็เป็นอีกหนึ่งแห่งที่น่าเรียนค่ะ เรื่องชื่อเสียงเรียงนามของมหาวิทยาลัยแห่งนี้นั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งคณะวิทยาศาสตร์ในระดับบัณฑิตศึกษา (Graduate School of Science : GSS) ยังมีนักวิจัยที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก และยังมีผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลอีกด้วย
คณะนี้จะเน้นการศึกษาด้านหลักการของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในฐานะนักวิทยาศาสตร์
Natural Science : Kyoto University Japan

นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดการเรียนการสอน เช่น Mathematics-based Creation of Science Program เมื่อปี 2016 เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้แบบก้าวทันโลกยุคปัจจุบัน โดยจะเริ่มเปิดรับสมัครกันในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี เพื่อศึกษาต่อในเดือนเมษายนหรือตุลาคมของปีถัดไป
เว็ปไซต์ของมหาวิทยาลัย : Graduate School of Science
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับทุนเรียนต่อญี่ปุ่น ที่นอกจากทุนมงแล้ว น้อง ๆ ก็ยังมีโอกาสในการคว้าทุนศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะทุนการศึกษานั้นยังมีอีกหลายทุนให้ได้ลองไปสมัครกัน ทั้งทุนจากมหาวิทยาลัยและทุนที่เราต้องสมัครเอง ที่สำคัญเลยก็คือ อย่าลืมเตรียมตัวสอบ JLPT ให้พร้อม เมื่อโอกาสมาถึงจะได้ไม่สะดุดนะคะ
สำหรับน้อง ๆ ที่กำลังตั้งใจจะคว้าทุนไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นหรือประเทศอื่น ๆ พวกเราก็ขออวยพรให้น้อง ๆ โชคดี ได้รับทุนกันทุกคนน้า
Owl Campus Team