“อังกฤษ” หรือ “สหราชอาณาจักร” เป็นประเทศที่มีความน่าเชื่อถือเรื่องการศึกษาอย่างมาก และมักถูกกล่าวขานว่าเป็นประเทศแนวหน้าของการเรียนต่อ ที่นักเรียน – นักศึกษาต่างชาติหลายคนปรารถนาจะมาเยี่ยมเยือนสักครั้งในชีวิต ไม่เพียงแค่เมืองใดเมืองหนึ่งเท่านั้นที่ได้รับความนิยม แต่ด้วยบริบททางสังคม มาตรฐานการศึกษาที่เสมอภาคกันทั่วประเทศ ส่งผลให้หลายเมืองในประเทศอังกฤษมีปัจจัยดึงดูดนักเรียน – นักศึกษามากมายไม่แพ้กัน อย่างเช่น เมืองยอดฮิตติดอันดับที่เราได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาเสมอ นั่นก็คือ “ลอนดอน”
ลอนดอน เมืองหลวงแห่งสหราชอาณาจักร สถานที่กักเก็บทั้งวัฒนธรรมเก่าแก่ สถาปัตยกรรมโบราณสุดคลาสสิก และยังเป็นเมืองสุดฮิตสำหรับแวดวงการศึกษาโลกอีกด้วย หากใครที่สนใจอยากไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ “ลอนดอน” จะต้องเป็นหนึ่งในตัวเลือกของใครหลายคนอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยในลอนดอน สถาบันการศึกษาในลอนดอน ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมของเด็ก ๆ เสมอ
ที่สำคัญ รางวัลการันตีคุณภาพของมหาวิทยาลัยในลอนดอน ก็ไม่น้อยหน้าประเทศอื่น เพราะพวกเขาสามารถคงคุณภาพและมาตรฐานได้เป็นอย่างดี “และติดโพลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกทุกครั้ง” แทบจะทุกตารางก็ว่าได้ อาจจะพูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่าจองตำแหน่งหัวตารางมาเสมอตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันกันเลยทีเดียว!
จนเกิดเป็นคำถามที่บางคนอาจเคยสงสัย นอกจากเรื่องคุณภาพการศึกษาแล้วนั้น อะไรที่ทำให้ ลอนดอน ได้รับความนิยมอย่างถาโถมขนาดนี้ และในปี 2021 – 2022 สถาบันใดได้ขึ้นแท่นว่าเป็นสุดยอดมหาวิทยาลัยในลอนดอนกันบ้าง!?
แนะนำอ่าน : มหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ แหล่งยอดฮิต – ขึ้นชื่อสำหรับเรียนต่อปริญญาตรี
5 อิทธิพลและเหตุผลที่ทำให้ “ลอนดอน” คือเบอร์หนึ่งด้านการศึกษาในอังกฤษ
1. มาตรฐานการศึกษาและคอร์สเรียนเฉพาะทาง
คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ลอนดอน เป็นเมืองหนึ่งที่มีมาตรฐานการศึกษาที่สูงมากในโลก ประกอบด้วยสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยมากกว่า 40 สถาบัน คอร์สเรียนมากกว่า 30,000 หลักสูตร รวมถึงนักศึกษาไม่น้อยกว่า 400,000 คน ลอนดอนยังผลิตบุคลากรที่ได้รับรางวัลด้านวิชาการไม่ต่ำกว่า 70 ผู้ทรงเกียรติ
ไม่เพียงเท่านั้น “ที่นี่ยังมีสถาบันที่สอนคอร์สเรียนเฉพาะทาง ในความสนใจที่เป็นความเฉพาะเจาะจง” เช่น วิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับอันตรายและภัยพิบัติ เป็นสายเรียนเพื่อการทำนาย วางแผน และจัดการ การเกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ
หรือจะเป็นการเรียนด้านครีเอทีฟ ที่ลอนดอนก็มีชื่อเสียงด้านนี้ไม่น้อยไปกว่าเมืองอื่น ไม่ว่าจะเป็นด้าน การออกแบบ – การเต้นสมัยใหม่และศิลปะการเต้นรำ ก็ยังมีบรรจุลงในหลักสูตรปริญญาอีกด้วย
2. การเข้าถึงโอกาสการทำงาน
แน่นอนว่าอังกฤษ เป็นประเทศชั้นนำระดับโลก การเข้าถึงโอกาสดี ๆ มักมีให้เลือกและไขว่คว้ามากตามไปด้วย ประกอบกับลอนดอน เป็นถึงเบอร์หนึ่งด้านการศึกษาในอังกฤษ โอกาสการเริ่มต้นสายงานที่ดีและกว้างขวางก็มักถูกตระเตรียมไว้อยู่ก่อนแล้ว รวมถึงการทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียน ยังเป็นอีกช่องทางทำเงินที่ดีให้แก่นักเรียน – นักศึกษาตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตในต่างแดน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสายงานที่ดีได้อย่างรวดเร็ว
3. กิจกรรมและการใช้ชีวิต
นอกเหนือจากการเรียนและมาตรฐานการศึกษา กิจกรรมนันทนาการ – การใช้ชีวิตระหว่างเรียน ยังคงจำเป็นมากในการอยู่อาศัย “ลอนดอน ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์รวมทางวัฒนธรรมอังกฤษและความบันเทิงที่หลากหลายมากแห่งหนึ่งในโลก” ครบพร้อมทั้งด้านศิลปะ – การแสดง และนิทรรศการ รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่ในลอนดอน ยังเปิดให้เข้าชมกันแบบฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย ไหนจะด้านการละครที่มีทั้งโรงภาพยนตร์และการแสดงดนตรีสดทั่วเมือง
ถัดจากชีวิตยามค่ำคืน ด้านแสงสว่างก็ยังมีความเขียวชอุ่มตามสวนสาธารณะ เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพและแสงแดด สถานที่พักผ่อนหย่อนใจเหล่านี้ยังเปิดให้เข้าใช้บริการฟรี – มีมาตรฐาน และหากการเรียนต่อยังต่างแดนจะมีเป้าหมายรองเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตที่อิสระ ลอนดอนก็พร้อมจะให้สิ่งนั้นกับผู้เรียนเสมอ.
4. สวรรค์นักรักหนังสือ
อีกเหตุผลที่ทำให้ ลอนดอน มีอิทธิพลต่อนักเรียน – นักศึกษา เนื่องมาจากลอนดอน เป็นสถานที่ตั้งของห้องสมุดนานาชาติมากมาย ตามสถาบันการศึกษา อย่าง มหาวิทยาลัย มักให้บริการห้องสมุดที่มีความเชี่ยวชาญและเฉพาะเจาะจงสูง British Library “ห้องสมุดในลอนดอนที่มีหนังสือมากกว่า 150 ล้านเล่ม” นั่นถือเป็นจำนวนที่เพียงพอต่อนักอ่านตัวยงเลยก็ว่าได้
ไม่เพียงแต่ห้องสมุดเท่านั้น ร้านหนังสือ ตามย่านต่าง ๆ ก็คงความเก๋เอาไว้ไม่น้อย ทั้งความคลาสสิกของรูปเล่มและความสวยงามของสถานที่ ลอนดอนจึงเป็นแหล่งดึงดูดใจชั้นดีแก่นักเรียน – นักศึกษาที่ได้ชื่อว่า “หนอนหนังสือ”
5. มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ปัจจัยและอิทธิพลสุดท้าย ที่ส่งผลให้ ลอนดอน เป็นหนึ่งในจ้าวแห่งการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา นั่นก็คือ ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยที่กว้างไกลไปถึงระดับโลก “King’s College” และ “Imperial College” ล้วนเป็นมหาวิทยาลัยต้น ๆ ของอังกฤษ ที่ไม่ได้ไปตั้งอยู่ไหนไกล แต่ตั้งอยู่ใน ลอนดอน ถิ่นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเบอร์หนึ่งของสหราชอาณาจักรนั่นเอง
ทว่าไม่ได้มีแค่ 2 สถาบันเหล่านี้เท่านั้น ที่ยอดฮิต-ติดอันดับ ในการจัดแรงกิ้งของโลก ลอนดอน ยังมีสถานศึกษาอีกมากมายที่ทรงคุณวุฒิและทรงคุณภาพอีกหลายแห่ง!
10 อันดับมหาวิทยาลัยในลอนดอนคุณภาพดี – มีการันตีระดับ World-Class
1. Imperial College London
ตัวเต็งเบอร์หนึ่งของลอนดอนและอันดับต้น ๆ ของอังกฤษ อย่าง Imperial College London “เป็นสถาบันระดับอุดมศึกษา ที่เชี่ยวชาญพิเศษด้านการวิจัย การแพทย์ วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์” ตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน ในแต่ละปี Imperial College ได้มอบใบปริญญามากกว่า 6,000 ใบ ให้แก่นักศึกษาจาก 125 ประเทศทั่วโลก
2. ULC หรือ University College London
University College London หรือที่รู้จักในนาม ULC ถือเป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาแห่งแรกในลอนดอน ก่อตั้งมานานกว่า 195 ปี! ตั้งอยู่ในเขต Bloomsbury ของลอนดอน “ไม่เพียงแต่ความเก่าแก่และมีเสน่ห์ ULC ยังคงเป็นพันธมิตรกับสถาบันต่างชาติถึง 300 สถาบัน” และยังดึงดูดนักเรียนต่างชาติมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก
3. London School of Economics and Political Science
สถาบันแห่งการเมืองการปกครอง London School of Economics and Political Science หรือ LSE ได้ขึ้นแท่นเป็นมหาวิทยาลัยผู้นำด้านสังคมศาสตร์ระดับโลก มานานนับศตวรรษ “มักเป็นสถานที่จัดบรรยายทางวิชาการสากลเสมอ” ในหลักสูตรปริญญาตรีมีสาขาวิชาให้เลือกมากกว่า 36 หลักสูตร ส่วนด้านปริญญาโทและเอก มีหลักสูตรมากถึง 140 สาขา จาก 25 คณะ! ไม่เพียงเท่านั้น LSE ยังดึงดูดนักเรียนต่างชาติได้ไม่น้อยกว่า 140 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย
4. King’s College London
มหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในอังกฤษ King’s College London ตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน “ถูกสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1829 หรือประมาณ 192 ปีก่อน” เป็นสถาบันการศึกษาในด้านศิลปศาสตร์ มีสถาบันเฉพาะในเครือที่แตกแขนงไปตามสาขาวิชา ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนศิลปศาสตร์ – โรงเรียนด้านธุรกิจ McGovern King’s และศูนย์อบรมอื่น ๆ นอกจากนั้นยังมีโปรแกรมภาษาอังกฤษทางด้านวรรณคดีและการเขียนอย่างมืออาชีพเพิ่มเติมอีกด้วย ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยด้านศิลปศาสตร์โดยแท้จริง
5. Queen Mary University of London (QMUL)
“Queen Mary เป็นสถาบันที่หลอมรวมมาจากสถาบันการแพทย์ทั้ง 4 แห่งในอดีตของลอนดอน” นั่นเองทำให้ QMUL แห่งนี้จึงมีชื่อเสียงในทางการแพทย์ มีวิทยาเขตหลักอยู่ทางตะวันออกของเมืองลอนดอน นอกจากนี้ QMUL ยังประกอบไปด้วยหลักสูตรปริญญามากกว่า 240 โปรแกรม ในสาขาวิชาด้าน มนุษยศาสตร์ – สังคมศาสตร์ – วิทยาศาสตร์ – วิศวกรรมศาสตร์ การแพทย์และทันตกรรม
6. St. George’s, University of London (SGUL)
สถาบันการศึกษาด้านการแพทย์ ที่อยู่ภายใต้ระบบของ The University of London อีกทีหนึ่ง SGUL ยังคงมีชื่อเสียงด้านการแพทย์เป็นการเฉพาะ เนื่องจาก “เป็นมหาวิทยาลัยแห่งที่ 2 ในอังกฤษที่เปิดสอนหลักสูตรการแพทย์อย่างเป็นทางการ” ถือว่าเก่าแก่และทรงคุณค่าทางในแวดวงนี้มากทีเดียว
7. Royal Holloway, University of London
Royal Holloway เป็นอีกสถาบันการศึกษาที่ได้เป็นถึงแนวหน้าของลอนดอน ถูกร่วมก่อตั้งโดยนักปฏิรูปสังคมตั้งแต่ในอดีต ประกอบกับ “การวิจัยระดับของสถาบันที่เชี่ยวชาญด้านขยายความคิดและการเปลี่ยนแปลงชีวิต” รวมถึงบุคลากรที่พร้อมมอบประสบการณ์ให้ผู้คนประสบผลสำเร็จในด้านวิชาการและสังคมด้วยตัวเองได้ นอกจากนั้น Royal Holloway ยังมีห้องสมุดที่แสนจะทันสมัย สงบและมีความสร้างสรรค์ในเวลาเดียวกัน พร้อมรองรับการทำงานกับบุคคลอื่น ๆ
8. Birkbeck, University of London
ในอดีต สถาบัน Birkbeck เป็นที่สนใจแก่นักศึกษาที่ต้องการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยแต่ไม่สะดวกที่จะเรียนแบบเต็มเวลา “จนปัจจุบัน ที่นี่ยังคงเป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาหนึ่งเดียวในลอนดอน ที่ให้บริการหลักสูตรเรียนภาคค่ำ” ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ยืดหยุ่นให้แก่นักเรียน – นักศึกษาที่ต้องการเรียนนอกเวลาเพื่อให้สมดุลกับรูปแบบการใช้ชีวิตของพวกเขา ส่วนชื่อเสียงเรียงนามก็ไม่เป็นสองรองใคร แถมผลงานวิจัยที่ได้รับรางวัลการันตี ก็มีมากกว่า 73% ของทั้งหมดอีกด้วย!
9. Brunel University London
Brunel University London ถูกจัดสรรออกเป็น 3 วิทยาลัยย่อย ได้แก่ วิทยาลัยด้านวิศวกรรมศาสตร์ – ออกแบบ – วิทยาศาสตร์กายภาพ / วิทยาลัยด้านธุรกิจ – ศิลปศาสตร์ – สังคมศาสตร์ / วิทยาลัยด้านสุขภาพและวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต “ที่นี่ ผู้เรียนจะได้สัมผัสกับการทำกิจกรรมที่หลากหลายและหลากวัฒนธรรม” รวมถึงอุปกรณ์ที่ครบครันของมหาวิทยาลัย
10. City, University of London
City เป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ภายใต้ระบบของ The University of London สถาบันการศึกษาแห่งนี้ถูกแบ่งออก 5 แขนง ได้แก่กฎหมาย – วิทยาศาสตร์สุขภาพ – ศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์ – วิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมศาสตร์ และแขนงสุดท้ายได้แก่ด้านธุรกิจ นอกจากนั้น “ที่ City, University of London ยังมีพันธมิตรในการแลกเปลี่ยนนักศึกษาในหลายประเทศ” เช่น จีน แคนาดา เยอรมนี อิตาลี เกาหลี รัสเซีย และสิงคโปร์